วันที่ 2 ก.ค.2568 นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต้องไม่ปฏิบัติหน้าที่รมว.วัฒนธรรมด้วย มีเนื้อหาระบุว่า " หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ 36 สว.ที่ขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ จากปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน และมีคำสั่งให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย  โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก เป็นการเตรียมการไว้เผื่อถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังเข้าครม.ต่อได้ในฐานะรมว.วัฒนธรรม เป็นที่ถกเถียงกันว่าคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่ง ให้ นางสาวแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะส่งผลถึงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมที่เพิ่งนั่งควบอยู่ด้วยหรือไม่ 

นายเชาว์ ระบุด้วยว่า ต้องย้อนไปดูที่มาของคำสั่งตามข้อกล่าวหา กรณีประธานวุฒิสภา (สว.) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 18/2568)  ข้อกล่าวหาอันเป็นหลักแห่งที่มาของคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ คือ นางสาวแพทองธารไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5)  ซึ่งเป็นเรื่องคุณสมบัติ เฉพาะตัวเฉพาะบุคคล ของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ปรากฎเหตุอันควรสงสัยตามคำร้อง คือไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงมีคำสั่งให้ นางสาวแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี  คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมผูกพันต่อสถานะความเป็นรัฐมนตรีทุกตำแหน่ง ของนางสาวแพทองธาร และกับทุกองค์กรแล้ว 

“ผมจึงเตือนไปที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องไม่ทำอะไร ที่ขัดคำสั่งศาล มิฉะนั้น ความเป็นรัฐมนตรีอาจถูกถอดถอนทั้งคณะ อย่าเอาคนมีตำหนิไปเข้าเฝ้าถวายสัตย์ จนกว่าคนผู้นั้นจะพ้นมลทิน ถ้ายังดึงดันกอดอำนาจโดยไม่สนความชอบธรรม ก็อย่าโทษใคร หากสุดท้าย ครม. ทั้งคณะต้องพังไปพร้อมกัน“ ทนายเชาว์ กล่าว