วันที่ 2 ก.ค.68 ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กสุริยะใส กตะศิลา ว่า...

กำลังเดินสู่สุญญากาศทางการเมือง โดยไม่รู้ตัว

กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เสนอตัวควบตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม นอกจากนายกรัฐมนตรี เพื่อกันไว้หากศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ฟังดูเหมือน “แผนสำรอง”

แต่ในความจริง — นี่อาจเป็น กับดักทางการเมือง ที่พาประเทศเข้าสู่ทางตัน

นี่ ไม่ใช่นิติสงคราม

ไม่ใช่การใช้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง

แต่คือ การปะทะกันระหว่าง “อำนาจ” กับ “หลักการ”

เมื่อฝ่ายการเมืองพยายามรักษาเก้าอี้ด้วยเทคนิคทางตำแหน่ง

ขณะที่รัฐธรรมนูญวางกรอบจริยธรรมใว้อย่างเข้มงวด

รัฐธรรมนูญมาตรา 160(5) และ มาตรา 170 วรรคสาม

ระบุชัดว่า ผู้ที่ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จะ ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใด ๆ ได้เลย

ไม่ใช่แค่ “หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” เท่านั้น

บางคนยกกรณี “ลุงตู่” มาเทียบ

แต่ลุงตู่โดนร้องเรื่องวาระ 8 ปี (มาตรา 158 วรรคสี่) ไม่ใช่ปัญหาจริยธรรม

จึงยังนั่ง รมว.กลาโหมได้

แต่กรณีแพทองธาร — คือ ปัญหาคุณธรรมและความซื่อสัตย์ร้ายแรง

หากศาลชี้ว่ามีมูล ก็ ไม่มีสิทธินั่งเก้าอี้ใดเลย แม้แต่ รมว.วัฒนธรรม

ถ้าฝืนดันเรื่องนี้ต่อไป

จะไม่ใช่แค่ “ผิดเทคนิค”

แต่คือ การท้าทายหลักนิติธรรม และอาจนำไปสู่ สุญญากาศทางการเมือง

เพราะระบบตรวจสอบไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ และความเชื่อมันของประชาชนจะพังทลาย

ถึงเวลาถามกลับฝ่ายการเมืองว่า

จะเลือกยึด “ตำแหน่ง” หรือ “หลักการ”?