Booking.com แสดงความเชื่อมั่นต่อโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ของภาครัฐ มองเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง ได้แก่ กลุ่มครอบครัวใหญ่แบบหลายเจเนอเรชัน กลุ่มคนรุ่นใหม่ (เจนเนอเรชัน Z) และกลุ่ม LGBTQ+ ที่มีแนวโน้มเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ ‘Awaken Your Pridest Dream’ ตอกย้ำภาพลักษณ์ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่เปิดกว้าง เป็นมิตร และปลอดภัยสำหรับทุกคน

นายบรานาวัน อรุลโจธี Area Manager, Booking.com เปิดเผยว่า มาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ถือเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นดีมานด์การเดินทางภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มคนไทย พร้อมส่งเสริมการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังเมืองรอง เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น

“Booking.com เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการฟื้นตัวของตลาด การเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และบรรยากาศการเดินทางที่กลับมาคึกคัก ซึ่งเรามั่นใจว่ามาตรการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 จะช่วยขับเคลื่อนตลาดไทยเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับปัจจัยท้าทายจากภายนอก” นายบรานาวันกล่าว

จากข้อมูลของ Booking.com พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวใหญ่แบบหลายเจเนอเรชัน มีแนวโน้มเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากต้องการใช้เวลาในการพักผ่อนและสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน ขณะเดียวกัน กลุ่มคนรุ่นใหม่หรือเจนเนอเรชัน Z ก็มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลาย แปลกใหม่ และพร้อมจ่ายเพื่อกิจกรรมที่มากกว่าการเข้าพักทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา

ในแง่ของจุดหมายปลายทาง กรุงเทพฯ ยังคงเป็นอันดับหนึ่งของทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวหลักอย่าง ภูเก็ต สมุย พัทยา และหัวหิน ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง นอกจากนี้ จังหวัดระยองเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวสูงขึ้นจากความสงบและเสน่ห์ของธรรมชาติ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย

อีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่ Booking.com ให้ความสำคัญ คือ กลุ่มนักเดินทาง LGBTQ+ ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากตลาดภายในและต่างประเทศ โดยล่าสุด Booking.com ได้เปิดตัวแคมเปญ ‘Awaken Your Pridest Dream’ ร่วมกับโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ และ House of Heals เพื่อส่งเสริมประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย เป็นมิตร และเปิดกว้างสำหรับนักเดินทาง LGBTQ+ จากทั่วโลก

“แคมเปญนี้สะท้อนแนวคิดหลักของ Booking.com ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ ที่มองหาประเทศหรือสถานที่ที่ยอมรับในความหลากหลาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้” นายบรานาวันกล่าว

นอกจากนี้ Booking.com ยังเดินหน้าโครงการ Travel Proud ซึ่งเป็นโปรแกรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้สามารถรองรับความต้องการของนักเดินทาง LGBTQ+ ได้อย่างเหมาะสม โดยปัจจุบันประเทศไทยมีที่พักที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้แล้วกว่า 2,000 แห่ง มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สะท้อนบทบาทและความพร้อมของไทยในการรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงกลุ่มนี้

“ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน และหากภาคธุรกิจสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว LGBTQ+ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจท่องเที่ยว และผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้อย่างยั่งยืน” นายบรานาวันกล่าวสรุป