วันที่ 2 ก.ค.2568 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า  เราเป็นคนไทยอยู่ภายใต้กฎหมาย ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เมื่อศาลตัดสินออกมาแล้ว สั่งให้หยุดปฏิบัติงาน ก็ต้องตั้งรักษาการ ส่วน อนาคตของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรต่อไป ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้ร่วมครม.ด้วย

เมื่อถามว่า  มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ลงมาแล้ว โดย นายกฯ ควบตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ด้วย ก็สามารถเข้าร่วมประชุม ครม.ได้เหมือนสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ใช่เพราะเป็นกฎหมายเดียวกัน

เมื่อถามต่อว่า จะดูแปลกหรือไม่ที่ น.ส.แพทองธาร จะเข้าร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตนได้ในขณะที่เพิ่งถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่  พล.อ.ประวิตร ยอมรับว่า  ดูแปลกเหมือนกัน

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตนเป็นรองนายกฯ และรมว.กลาโหม  เป็นประธาน เจบีซี ฝ่ายกัมพูชาจะหยิบยกเรื่องปักปันเขตแดนมาพูด ซึ่งตกลงกันไม่ได้ ตนก็ไม่คุยด้วย และเวทีเจบีซีก็หยิบยกเรื่องพื้นที่ทับซ้อนในทะเลการพูดคุยแทน

เมื่อถามว่า ถ้า พล.ประวิตร เป็น รมว.กลาโหม จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา อย่างไร  พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะคุยกับผู้นำกองทัพของกัมพูชา ซึ่งมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันดี เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน และบอกด้วยว่า "ผมรบมาตั้งแต่ร้อยตรีแล้ว"

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการทำงานการเมืองในอนาคตว่า  จะทุ่มเทชีวิตที่เหลือทำการเมืองเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ยังเดินหน้าทำพรรคการเมืองต่อไป สร้างคนใหม่ขึ้นมาแทนคนเก่าที่ถูกซื้อตัวไป จะไม่ตกปลาในบ่อเพื่อน  และตั้งเป้าเลือกตังครั้งหน้าได้สส. 60 คน ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์