จับตาศาลรธน.ชี้ชะตา “อุ๊งอิ๊งค์” วันนี้ ด้าน “วันนอร์” ชี้หากศาลรธน.สั่ง “นายกฯ อิ๊งค์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” ยื่นซักฟอกไม่ได้ ส่วน “ภูมิธรรม” การันตี “รัฐประหาร” ไม่มีอยู่ในหัว “บิ๊กหล่าทัพ” เย้ย “ม็อบ”พยายามให้ตายก็ไม่เกิด ขณะที่ “15 องค์กรประชาธิปไตยฯ” ออกแถลงการณ์จี้ “แพทองธาร” ลาออก รับผิดชอบทางการเมือง ส่วน “ทักษิณ” ไปเอง! ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์นัดแรกคดี “ม.112”

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปศาลอาญาด้วยตนเอง ตามนัดในการตรวจพยานหลักฐานคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้โดยมีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน


ทั้งนี้ สำหรับการสืบพยานมีทั้งหมด 7 นัด โดยฝ่ายโจทก์นัดในวันที่ 1, 2 และ 3 กรกฎาคม 2568 นัดสืบพยานฝ่ายจำเลยจะสืบพยานในวันที่ 15, 16, 22 และ 23 กรกฎาคม 2568 หลังจากนั้นศาลจะจัดทำคำพิพากษาต่อไป


ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาพร้อมปราศรัยปลุกกระแสรัฐประหาร ว่า เรื่องการรัฐประหาร พยายามให้ตายก็ยากที่จะเกิดขึ้น เท่าที่ตนอยู่กระทรวงกลาโหม และได้พูดคุยผู้บังคับบัญชาส่วนต่างๆ ทั้ง 4 เหล่าทัพก็ยืนยัน ว่า วันนี้ประเทศวิกฤติและอยากช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดของนายทหารชั้นผู้ใหญ่เลย วันนี้เขาอยากให้เราแก้ปัญหานี้ได้ทั้งหมด


เมื่อถามว่า เรื่องนี้สอดรับกับผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ลำดับความนิยมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ตกไปอยู่อันดับที่ 5 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผลโพลมันขึ้นๆ ลงๆ ตามช่วงเวลา วันนี้รัฐบาลยังเดินหน้าทำเต็มที่ สิ่งที่มีใครพยายามขัดขวาง สร้างเงื่อนไข พยายามทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน ประชาชนจะค่อยๆ พิจารณา


เมื่อถามถึงกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร จะควบ รมว.วัฒนธรรม เพื่อรองรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณี สว.ยื่นถอดถอน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่โปรดเกล้าฯ รู้ได้อย่างไรว่า จะไปอยู่กระทรวงวัฒนธรรมหรือไม่ 


เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า อาจเป็นในลักษณะเดียวกับสมัย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ที่ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ยังทำหน้าที่ รมว.กลาโหมได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปจินตนาการ รอให้โปรดเกล้าฯลงมาแล้วมาวิพากษ์วิจารณ์กัน


ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ เป็นเรื่องขององค์กรอิสระ แต่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องของสภาฯและฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้ามีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจยื่นได้ตลอดเวลาที่สามารถยื่นได้ และเมื่อยื่นแล้วทางสภาฯก็พร้อมที่จะตรวจสอบรายชื่อ และญัตติให้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับของสภาฯ ถ้าเรียบร้อยก็จะส่งไปให้รัฐบาล เพื่อพิจารณากำหนดวันอภิปราย และถ้ารัฐบาลพร้อมเมื่อไหร่ก็จะประชุมวิปทั้ง 3 ฝ่าย ทางฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และตัวแทนคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อที่จะกำหนดว่าอภิปรายกี่วัน และแบ่งเวลากันอย่างไร ซึ่งก็เหมือนปกติที่เคยปฏิบัติมา


เมื่อถามว่าหาก วันที่ 1 ก.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายกฯอยู่ปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้ไม่สามารถอภิปรายนายกฯได้ใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ถ้าศาลฯสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ยื่นอภิปรายไม่ได้ 


“ผมเข้าใจว่าฝ่ายค้าน คงดูด้วยความรอบคอบว่าจะอภิปรายใครบ้าง ซึ่งทางสภาฯก็จะพิจารณาตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ และดำเนินการไปตามที่เคยปฏิบัติมา”นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว


ส่วน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดสมัยประชุมสภาของฝ่ายค้าน ว่า วันพุธนี้ (3มิ.ย.68) จะมีการประชุมวิปฝ่ายค้านนัดแรกหลังจากเปิดสมัยประชุมสภา จากนั้นจะประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.68) ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตาม มาตรา 151 โดยมีหลายทางเลือกในการใช้กลไกของสภาในการตรวจสอบรัฐบาลและขอยืนยันว่า ไม่ได้เห็นต่างหรือคัดค้านเรื่องการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่จังหวะการยื่น จะยื่นอย่างไรให้แม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง 


เมื่อถามว่าหากยื่นช้าไปจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก่อนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้สามารถคิดได้ในมุมกลับ หากยื่นญัตติไป แล้วเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองต่อตัวนายกรัฐมนตรี เราก็ไม่สามารถบอกได้ 100%ในการตีความว่าจะเป็นการเสียของหรือไม่ ดังนั้นในสถานการณ์ตอนนี้ควรจะประเมินและดูเวลาอีกระยะหนึ่ง ต้องรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญและเรื่องอื่นๆ เมื่อถึงเวลาค่อยยื่นอย่างแม่นยำ ตนเชื่อว่าไม่ทำให้เสียเวลาแต่อย่างใด


นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงผลนิด้าโพล ที่มีประชาชนนิยมให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ว่า ตนรู้สึกดีใจและขอบคุณประชาชนทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้กับตนและพรรคประชาชน ขณะเดียวกันก็ไม่ประมาทและเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องพูดตามข้อเท็จจริงเสนอว่าคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีที่ตกลง คือการขาดความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรี ย่อมส่งผลอีกด้านหนึ่ง ที่ทำให้คะแนนไม่ได้เทมาที่ตนและพรรคประชาชน แต่ยังส่งผลถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนอื่นด้วย เพราะส่วนหนึ่งคือการขาดความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล ดังนั้น ผลโพลที่ขึ้นมาแม้จะรู้สึกดีใจและขอบคุณ แต่ก็ยังไม่ประมาท และยังเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่


เมื่อถามว่าผลโพลสะท้อนถึงคะแนนเสียงของพรรคประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผลโพลมีขึ้นมีลงตลอด ก่อนที่ถึงสนามการเลือกตั้งก็คิดว่าการสื่อสารและการปฎิบัติตัวโดยยืนอยู่บนหลักการ ที่นำเสนอทางออกให้กับสังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน จะนำมาสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคประชาชน จากวันนี้จนถึงวันเลือกตั้ง ผลโพลของใครก็ตามที่ได้ปรับคะแนนนิยมขึ้นมา แต่ละทิ้งหลักการและเลือกที่จะสื่อสารชี้นำสังคมไปทางใดทางหนึ่ง ที่เอาผลประโยชน์ของตัวเองในระยะสั้นเป็นหลักตนเชื่อว่าประชาชนมองออก และไม่ได้หมายความว่าผลโพลนี้จะนำไปสู่การชนะการเลือกตั้งในอนาคต


เมื่อถามว่าโอกาสที่จะสภาจะใช้นายกรัฐมนตรีคนนอก หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เราไม่อยากเห็น เพราะถือเป็นความเลวร้ายนอกเหนือจากการรัฐประหาร สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ตนก็มองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะถึงจุดนั้น ฉะนั้นพรรคประชาชน จึงพยายามประเมินสถานการณ์ ตัดสินใจอย่างมีวุฒิภาวะละเอียดรอบคอบ รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม มาตรา 151 ที่พรรคก็ยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่ แต่ต้องขอประเมินสถานการณ์ที่ถูกต้อง เป็นทางออกให้สังคม ซึ่งจะมีการประชุมร่วมของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้คำตอบ


เมื่อถามถึงการเสนอรายชื่อ เพื่อเข้ารับการเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่2 หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนเสนอไม่ได้ เพราะขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ว่าผู้นำฝ่ายค้านไม่สามารถมาจากพรรคการเมืองที่ดำรงตำแหน่งประธานหรือรองประธานสภาฯ ได้


เมื่อถามว่าพรรคอื่นจะเสนอหรือไม่ก็เป็นสิทธิของพรรคอื่น หากว่าพรรคภูมิใจไทยจะเสนอ พรรคประชาชนจะสนับสนุนหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องมีการประชุมในสัปดาห์นี้ก่อน แต่ยังมีความกังวลใจว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อและได้รับเลือกนั้น ทางนิตินัยจะถือว่าเป็นพรรคฝั่งรัฐบาล แม้ว่าทางพฤตินัยจะอยู่ในฝ่ายค้าน ซึ่งจะส่งผลถึงการนับเสียงในการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วย จึงต้องพูดคุยอย่างรอบคอบ


ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก "คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย | ครป." ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 15 องค์กรประชาธิปไตยประชาชน ออกแถลงการณ์เรียกร้องนายกรัฐมนตรีลาออกรับผิดชอบทางการเมือง เลือกนายกฯ ใหม่ตามครรลองประชาธิปไตย คัดค้านอำนาจนอกระบบ-รัฐประหาร จี้รัฐบาล-รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ทันที เดินหน้าประเทศไทย โดยแถลงการณ์ 15 องค์กรประชาธิปไตยและเครือข่ายภาคประชาชน มีเนื้อหาดังนี้


สืบเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างตระกูลชินวัตร ผู้นำรัฐบาลไทย และตระกูลฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา ทั้งตามที่การเจรจาลับของนายกรัฐมนตรีไทยกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาถูกเปิดเผยขึ้น และที่ยังไม่มีการเปิดเผย และเกิดปัญหาความชอบธรรมทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีที่ขาดความไว้วางใจจากประชาชน ในวิกฤตการณ์ปัจจุบันที่ผูกพันกับผลประโยชน์ประเทศชาติ เครือข่ายองค์กรประชาธิปไตยและเครือข่ายภาคประชาชน ตามรายชื่อด้านท้ายนี้ ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบตามหลักการประชาธิปไตยและวัฒนธรรมการเมืองในประเทศอารยะ โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้


1.ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เนื่องจากเป็นความผิดเฉพาะบุคคล เพื่อรับผิดชอบการกระทำของตนเอง สร้างมาตรฐานความรับผิดทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด และเปิดให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย 2.ขอคัดค้านอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งการรัฐประหารโดยผู้นำกองทัพหรือกลุ่มบุคคลใดๆ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจะนำไปสู่ความล้มเหลวซ้ำซากของประเทศไทย และขาดเสถียรภาพทางการเมืองที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลก 3.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภา ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาทางการเมืองโดยทันที เพื่อนำไปสู่การการเปลี่ยนแปลงตามครรลองประชาธิปไตย และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยโดยประชาชน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างสง่างาม