เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" หัวข้อ "เบื้องหลัง ครม.อิ๊งค์2" ระบุว่า...
เบื้องหลัง ครม.อิ๊งค์2
ท่ามกลางกระแสความกดดันทางการเมืองไปยัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ในกรณีคลิปเสียงที่คุยกับสมเด็จฮุนเซน สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมากมาย และกระแสข่าวโผครม. หรือรายชื่อการปรับครม.ออกมา บางกระแสบอกว่าได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งอยากจะตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปรับครม. ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ ครม.อิ๊งค์2 ใน 3 ประเด็นดังนี้
1.มีการเร่งรีบนำทูลเกล้ารายชื่อคณะรัฐมนตรีที่ปรับปรุงใหม่อย่างรวดเร็ว
มีการตรวจสอบประวัติว่าขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องด้านจริยธรรม มีการเร่งเร่งรีบให้มีการตรวจสอบให้เร็วที่สุด เพื่อจะนำรายชื่อทูลเกล้าให้ได้ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม เพราะถ้าช้าไปกว่านี้ ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน มีม็อบมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาล และทุกภาคส่วน
ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของประธานวุฒิสภา และมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเกิดสุญญากาศไม่มีผู้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาทางข้อกฎหมาย ถ้าหากจะให้รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ทูลเกล้า อาจจะขัดรัฐธรรมนูญได้ เพราะการนำรายชื่อทูลเกล้าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรี
2.มีกระแสข่าวเรื่องนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีไปด้วย
เริ่มต้นจากการควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ได้ปฏิเสธไป ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า นางสาวแพทองธาร จะควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นกระทรวงเดียวที่มีความเหมาะสมกับความรู้ความสามารถของนางสาวแพทองธารเป็นอย่างยิ่ง
มีความจำเป็นจะต้องควบรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อป้องกันหรือกันเหนียว กรณีกรณีถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ ซึ่งใช้วิธีเดียวกันกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่สามารถไปนั่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้
3.การปรับครม.ครั้งนี้ เป็นการปรับต่างตอบแทน
เป็นเรื่องของเด็กใครเด็กคนนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับผลงานหรือความรู้ความสามารถ เป็นเรื่องของการต่อรองทางการเมือง หรือคะแนนเสียงทางการเมืองล้วนๆ
จะเห็นการจัดสรรตำแหน่งโควต้ารัฐมนตรีไปตามบทบาทของก๊วน ของแก๊ง ของพรรคการเมือง จะเห็นบางพรรคมีรัฐมนตรีว่าการเกินจำนวนโควต้าจำนวนสส. บางพรรคเป็นพรรคเล็ก แต่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงใหญ่ กระทรวงเกรด A ถึง 2 กระทรวง
บางคนเป็นรัฐมนตรีในโควต้าเครือญาติ บางคนเป็นรัฐมนตรีต่างตอบแทน ที่มีปากเป็นกระบอกเสียงปกป้องทางการเมืองให้นายกรัฐมนตรี
ในขณะที่พวกส.ส.ข้าวนอกนา ส.ส.ต่างจังหวัด อยู่ไกลศูนย์อำนาจ เช่น สส.ภาคอีสานของพรรคเพื่อไทยหลายคน หรือผู้อาวุโสของพรรคเพื่อไทยหลายคนไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรี เช่น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิรัฐรัฐบาล นายฉลาด ขามช่วง ส.ส.อาวุโสจากจังหวัดร้อยเอ็ด หรือบุคคลอื่นๆที่มีบทบาทช่วยเหลือพรรค แต่ว่าไม่ได้ใกล้ชิดศูนย์อำนาจ ไม่ได้ใกล้ชิดผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรค
บางคนใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่แดนไกล ก็สามารถกลับเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง
จากปรากฏการณ์ 3 เรื่องนี้ จะเห็นว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นเรื่องรีบเร่งประเภทสุกเอาเผากิน และประเภทต่างตอบแทน หวังที่จะใช้คะแนนเสียงส.ส.ของพรรคการเมืองต่างๆค้ำจุนบัลลังก์นายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะต้องพิสูจน์กันต่อไปว่า นางสาวแพทองธาร จะอยู่บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปได้สักกี่น้ำ