ทั้งตรวจ-ปรับเปลี่ยนรถ, เน้นเช่าเพื่อลดภาระซ่อมบำรุง, หนุนใช้รถไฟฟ้า โดยนำร่องใช้แล้วในสจล. พร้อมสร้างแบบจำลองระดับคุณภาพอากาศเพื่อสร้างต้นแบบพัฒนาเมืองในอนาคต
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.62 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ในขณะนี้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง สาเหตุของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง มาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ถูกปล่อยจากเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และการก่อสร้าง เช่น ควันจากท่อไอเสียรถ การจราจรขนส่ง รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในงานก่อสร้าง เป็นต้น ผนวกการคาดการณ์ของแอปพลิเคชั่น “WMApp” ที่พยากรณ์อากาศความละเอียดสูงสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป พบว่า สภาพอากาศปิด ลมสงบ ส่งผลให้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ได้เสนอแนวทางแก้ไขผ่านไทม์ไลน์ 3ระยะมุ่งจัดการยานพาหนะของหน่วยงานภาครัฐ มีดังนี้
1.ตรวจ – ปรับเปลี่ยนยานพาหนะภาครัฐ การตรวจสภาพเครื่องยนต์ให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงปรับแต่งรถให้ลดการปล่อยก๊าซพิษที่เป็นสาเหตุปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 ซึ่งเป็นแผนแก้ไขปัญหาระยะสั้น โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะและยานพาหนะอื่นๆ ในสังกัด กทม. เช่น รถเมล์ และรถร่วมบริการ ขสมก. รถตู้ รถขนขยะ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์
2.เน้นเช่ารถ เพื่อลดปัญหาซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แผนระยะกลาง มุ่งบริหารจัดการระบบยานพาหนะของภาครัฐ ควรใช้ระบบเช่ารถมากกว่าการจัดซื้อ เนื่องจากคุ้มค่าในเรื่องการบำรุงรักษา ทั้งนี้ จำนวนยานพาหนะในภาครัฐมีกว่า 20,000 คัน ที่ใช้ทำกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ในเขตพื้นที่กทม.และจังหวัดใกล้เคียง
3.หนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า สำหรับแผนระยะยาวในการแก้ไข โดยมุ่งส่งเสริมและปรับเปลี่ยนยานพาหนะภาครัฐสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะในเขตเมือง เนื่องจากจะช่วยลด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ เขม่าผงคาร์บอน ที่เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่นละออง
ทั้งนี้ สจล. ได้เริ่มใช้มาตรการคุมเข้มยานพาหนะที่สัญจรผ่านเข้า – ออก ภายในสถาบัน ผ่านการตรวจวัดความสมบูรณ์การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และระงับโครงการก่อสร้างที่ก่อค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน พร้อมร่วมกับสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ สจล. เร่งสร้างแบบจำลองระดับคุณภาพอากาศในพื้นที่สาธารณะของกทม. เพื่อเป็นต้นแบบพัฒนาเมืองรองรับการเจริญเติบโตในอนาคต
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ภาครัฐจำเป็นจะต้องเสนอเป็นวาระสำคัญระดับประเทศ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงจำเป็นต้องวางแผนเชิงรุกและแก้ไขที่ต้นเหตุจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ได้เสนอแนวทางแก้ไขผ่านไทม์ไลน์ 3ระยะมุ่งจัดการยานพาหนะของหน่วยงานภาครัฐ มีดังนี้
1.ตรวจ – ปรับเปลี่ยนยานพาหนะภาครัฐ การตรวจสภาพเครื่องยนต์ให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงปรับแต่งรถให้ลดการปล่อยก๊าซพิษที่เป็นสาเหตุปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 ซึ่งเป็นแผนแก้ไขปัญหาระยะสั้น โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะและยานพาหนะอื่นๆ ในสังกัด กทม. เช่น รถเมล์ และรถร่วมบริการ ขสมก. รถตู้ รถขนขยะ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเก่าที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์
2.เน้นเช่ารถ เพื่อลดปัญหาซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แผนระยะกลาง มุ่งบริหารจัดการระบบยานพาหนะของภาครัฐ ควรใช้ระบบเช่ารถมากกว่าการจัดซื้อ เนื่องจากคุ้มค่าในเรื่องการบำรุงรักษา ทั้งนี้ จำนวนยานพาหนะในภาครัฐมีกว่า 20,000 คัน ที่ใช้ทำกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ในเขตพื้นที่กทม.และจังหวัดใกล้เคียง
3.หนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า สำหรับแผนระยะยาวในการแก้ไข โดยมุ่งส่งเสริมและปรับเปลี่ยนยานพาหนะภาครัฐสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะในเขตเมือง เนื่องจากจะช่วยลด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ เขม่าผงคาร์บอน ที่เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฝุ่นละออง
ทั้งนี้ สจล. ได้เริ่มใช้มาตรการคุมเข้มยานพาหนะที่สัญจรผ่านเข้า – ออก ภายในสถาบัน ผ่านการตรวจวัดความสมบูรณ์การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และระงับโครงการก่อสร้างที่ก่อค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน พร้อมร่วมกับสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ สจล. เร่งสร้างแบบจำลองระดับคุณภาพอากาศในพื้นที่สาธารณะของกทม. เพื่อเป็นต้นแบบพัฒนาเมืองรองรับการเจริญเติบโตในอนาคต
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ภาครัฐจำเป็นจะต้องเสนอเป็นวาระสำคัญระดับประเทศ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงจำเป็นต้องวางแผนเชิงรุกและแก้ไขที่ต้นเหตุจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด