ฉก.นย.จันทบุรี ร่วมตำรวจ สภ.บ้านแปลง ตม.โป่งน้ำร้อนจับกุม 2 กัมพูชา ขนพบอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากข้ามแดน คาดเอี่ยวขบวนการปั่นเพจเฟซบุ๊กและอาจโยงอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ

เวลา 14.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.68 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี(ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยทหารพรานนาวิกโยธิน524) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแปลง และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองโป่งน้ำร้อน จับกุมชาวกัมพูชา 2 คน ได้แก่ นายมอน เซียงเฮง อายุ 30 ปี และนายแตม จันนี อายุ 38 ปี ที่กำลังจะเดินทางข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม 
อ.โป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เพื่อกลับไปยังประเทศกัมพูชา 


จากการตรวจค้นสัมภาระ พบอุปกรณ์สื่อสารและเงินสดจำนวนมาก โดยของกลางที่ตรวจพบ ได้แก่ เงินสด จำนวน 125,000 บาทโทรศัพท์มือถือ จำนวน 16 เครื่อง แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง  เครื่องกระจายสัญญาณ WI-FI จำนวนหนึ่ง เครื่องโทรศัพท์พ่วงสัญญาณพร้อมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 20 เครื่อง  ที่ชาร์จโทรศัพท์ จำนวน 12 เส้น สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 เล่ม(ธ.กรุงไทย,ธ.กสิกรไทย) บัตร ATM จำนวน 1 ใบ สมุดบันทึก จำนวน 15 เล่มเอกสารแปลนที่จัดสรร จำนวน 2 เล่ม  ที่วางโทรศัพท์ จำนวน 12 อัน ขาตั้งกล้อง จำนวน 1 อัน และเอกสาร
ต่าง ๆ 


จากการตรวจสอบหลักฐาน ทั้ง 2 คนเป็นชาวกัมพูชา ถือหนังสือเดินทางถูกต้อง เดินทางเข้ามาประเทศไทยทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และจะเดินทางกลับประเทศทางด่านถาวรบ้านแหลม  

เบื้องต้นชาวกัมพูชาทั้ง 2 คน ให้การว่า มีอาชีพเป็นผู้สร้างเพจ แอดมินเพจและเชิญชวนให้ผู้เล่น โซเชียลมีเดีย เฟสบุ๊ค เข้ามาเพื่อทำการปั่นยอดผู้ติดตามและผู้กดถูกใจ โดยมีชาวไทยไม่ทราบชื่อเป็นผู้ว่าจ้าง และจ่ายผลตอบแทนตามยอดไลก์/แชร์ที่ได้จาก Facebook  และจ้างชาวไทย 2 คน เปิดบัญชีธนาคาร เพื่อใช้รับเงินค่าจ้างในราคาเล่มละ 4,000 บาท 


ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า อุปกรณ์และรูปแบบการดำเนินการของชาวกัมพูชาดังกล่าว มีลักษณะใกล้เคียงกับขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือกลุ่มสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่มักใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน ปั่นยอดความน่าเชื่อถือของเพจ ก่อนหลอกขายสินค้า บริการ หรือหลอกใช้ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านไซเบอร์ และภาพลักษณ์ของประเทศ

ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ด่านศุลกากร อ.มะขาม จ.จันทบุรี พร้อมของกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ตรวจสอบความเชื่อมโยงกับขบวนการอื่นที่อาจเกี่ยวข้อง และขยายผลถึงผู้ว่าจ้างชาวไทย รวมถึงความเชื่อมโยงกับขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ในระดับข้ามชาติต่อไป