กระบี่คุมเข้ม สั่งทุกหน่วยเฝ้าระวัง หลังพบวัตถุคล้ายระเบิด 3 จุด 

ที่ห้องประชุมปลายพระยา ศาลากลาง จ.กระบี่ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8(รอง ผบช.ภ.8) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรกระบี่( รรท.ผบก.ก.ก.กระบี่) พ.อ.สรรเสริญ พุ่มเกิด รอง ผอ.รมน.กระบี่ พ.ต.ต.อ.สุขเกษม นครวิไล รอง ผบก.จว.กระบี่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังที่พบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ จ.กระบี่ รวม 3 จุด และรถ จยย.ต้องสงสัย 1 คัน ซึ่งคาดว่าเชื่อมโยงกับเหตุในพื้นที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต

โดยทาง ผวจ.กระบี่ ให้ข้อมูลว่า ก่อนพบวัตถุต้องสัยหลายจุด ในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งการข่มขู่ ผ่านออนไลน์ ด้วยการใช้ จักรยานยนต์ต้องสัย และการวางวัตถุคล้ายระเบิดต้องสงสัยในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุ ระเบิด(EOD) และชุดสุนัขดมกลิ่น K9 จำนวน 4 นาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดกระบี่ ได้ระดมค้นค้นหาตามข้อมูลที่ส่งผ่านกันมา จำนวน 4 จุด จนพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยไปจอดซุกไว้ ณ มัสยิดกลางจังหวัดกระบี่ จากนั้นติดตามไปตรวจสอบย่านอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา และสวนสาธารณะ โดยพบวัตถุต้องสงสัย ดังนี้ ที่บริเวณลานประติมากรรมไม้มะหาด 1 จุด บริเวณป้ายหาดนพรัตน์ธารา จำนวน 2 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้วัตถุต้องสงสัยเรียบร้อยทั้ง 3 จุด

ส่วนรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่จอดทิ้งไว้ที่มัสผิดกลางจังหวัดกระบี่ ตรวจสอบแล้วไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใดซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานต่าง ๆ ไปตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไปแล้ว และเพื่อเตรียมการป้องกันและเฝ้าระวังการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จึงขอให้ดำเนินการ ดังนี้ การจัดให้มีระบบการเฝ้าระวังภัย เพื่อเฝ้าระวังสถานที่จดเสี่ยงต่อการก่อเหต โดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ตามมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจตราและรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สวนสาธารณะ ศาสนสถาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นต้น ตลอดจนสถานที่ที่มีคนมาชุมนุมเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ 

พร้อมทั้ง ได้กำชับผู้ปฏิบัติงานให้ตระหนักและใสใจการปฏิบัติ หน้าที่อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอให้เป็นระเบียบประจำวันอย่าปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะผู้ได้รับมอบมอบหมายในการอยู่เวรยามให้เพิ่มความระมัดระวัง อยู่เวรยามรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญให้สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบสิ่งแปลกปลอมหรือต้องสงสัยให้แจ้งหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และให้รายงานจังหวัดทราบในทันที สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ถือปฏิบัติด้วย รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ตรวจตราบุคคลหรือสิ่งผิดปกติในระดับตำบล และหมู่บ้าน