วันที่ 26 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้การต้อนรับ พลเอก โมริชิตะ ยาสุโนริ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพบก  โดยกองทัพบกได้จัดพิธีตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และนำเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ก่อนเข้าพบหารือ ผบ.ทบ. และรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับภารกิจและความร่วมมือระหว่างสองกองทัพ 

 

ด้านพ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ในโอกาสนี้ กองทัพบก ได้จัดพิธีประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มชั้นกิตติมศักดิ์กองทัพบกพร้อมมอบประกาศนียบัตรเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นด้วย  ซึ่งในระหว่างการหารือ ณ ห้อง จปร. อาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้กล่าวถึง ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน 138 ปี มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในหลากหลายมิติ 

ซึ่งการพบปะหารือข้อราชการในวันนี้จะนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองกองทัพ โดยเฉพาะความร่วมมือในการพัฒนากำลังพล ที่มีการส่งกำลังพลเข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม ภายใต้รหัส Cobra Gold ซึ่งจะมีการยกระดับการฝึกให้มีความหลากหลายขึ้นในอนาคต และการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย (HA/DR) ในฐานะประเทศคู่เจรจาภายใต้ความร่วมมือกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ADMM-Plus EWG on HA/DR) ตลอดจนจะยกระดับความร่วมมือจากเดิมไทยเป็นเพียงผู้ร่วมสังเกตการณ์ เป็นผู้เข้าร่วมการฝึกหลักในการฝึกภายใต้รหัส Nankai Rescue  นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังจะสนับสนุนยุทโธปกรณ์สำหรับการฝึกการป้องกันเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ (CBRN) ให้กับกองทัพบกไทยอีกด้วย 

ในด้านการศึกษา ญี่ปุ่นสนับสนุนที่นั่งการฝึกศึกษาในหลักสูตรต่างๆ อาทิ หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, หลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก, หลักสูตรเสนาธิการทหารบก และ โดยเฉพาะหลักสูตรนักเรียนนายร้อยรวมเหล่า ที่ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นกล่าวว่า เป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษ ที่เทียบไม่ได้กับประเทศอื่น 

ในส่วนกองทัพบกยังได้แสดงความขอบคุณกองทัพบกญี่ปุ่น ที่ได้เชิญกำลังพลร่วมสังเกตการณ์การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง Fuji Fire Power Exercise ที่ผ่านมา รวมถึงในการสนับสนุนยุทโธปกรณ์รถยนต์บรรทุก ขนาด 1/2 ตัน แบบ 73 (½ Ton Type 73 Kogata) และรถยนต์บรรทุก ขนาด 3 1/2 ตัน แบบ 73 (3 ½ Ton Type 73 Ougata) และพร้อมพิจารณารถยนต์บรรทุกเพิ่มเติมให้แก่กองทัพบก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาขีดความสามารถด้านความมั่นคงในอนาคต

ส่วนในประเด็นเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชา ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากทั้งสองประเทศถือเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของญี่ปุ่น ซึ่ง ผบ.ทบ.ไทย ได้กล่าวยืนยันว่า ไทยพร้อมเจรจาในระดับทวิภาคี ผ่านกลไก RBC, GBC และ JBC มาโดยตลอด และเชื่อมั่นว่าหากมีการเจรจาเกิดขึ้น จะส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายกลับมาปกติได้โดยเร็ว 


 
สำหรับในห้วงท้ายของการพูดคุย กองทัพบกญี่ปุ่นได้แสดงความคาดหวังและความยินดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Staff Talk ระหว่างกองทัพบกทั้งสองประเทศในเดือนสิงหาคม 2568 รวมถึงได้กล่าวเชิญ ผบ.ทบ. ไทย เยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในปี 2569 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะยกระดับความสัมพันธ์ของกองทัพบกทั้งสองประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น