บุคลากรงานพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์ กว่า 250 คน ร่วมประชุม เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโครงการตามพระราชดำริ เผย  20 ปี ร่วมสนองงานกว่า 116 โครงการ ขยายผลกว่า 62 โครงการ ทั่วประเทศ เดินหน้าเสริมสร้างศักยภาพชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี กล่าวในระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน โครงการพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาว่า 

โครงการพระราชดำริ เป็นเครื่องสะท้อนพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มุ่งหวังให้ราษฎรสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเกื้อกูล โดยอาศัยความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน  บนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถือเป็นหน่วยงานหลักที่สนองพระราชดำริในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด ด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 116 โครงการ และโครงการขยายผลกว่า 62 โครงการ ความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากความเสียสละและความมุ่งมั่นของ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน

“การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดี ในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานทุกรายให้สามารถขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง และขยายผลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป “นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี กล่าว

ทางด้านนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ร่วมดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ครอบคลุมภารกิจทั้งด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ การฟื้นฟูแหล่งน้ำ การเสริมสร้าง คุณภาพชีวิตของราษฎร และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนอง พระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” แนวพระราชดำริให้เป็นรูปธรรม

“กิจกรรมในการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วยภาคการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจาก ภาคราชการและภาคเอกชน รวมถึงภาคปฏิบัติที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จริงจากพื้นที่ พร้อมแนวทางขยายผลไปสู่การบริหารจัดการ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ โครงการพระราชดำริ ของกรม จำนวนกว่า 250 ราย ได้เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และยกระดับสมรรถนะในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ พระราชดำริให้เกิด ผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืนสืบไป”นายนรินทร์ ประทวนชัย กล่าว

โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโครงการพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานโครงการพระราชดำริ ให้บรรลุตามเป้าหมายและนำไปสู่การสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเกื้อกูลและยั่งยืน ภายใต้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ โดยการน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” มาดำเนินการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความกินดีอยู่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีของราษฎร

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมฯ เป็นข้าราชการผู้ปฏิบัติงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 250 คน รับฟังการบรรยายจากคณะวิทยากรผู้มีประสบการณ์จากหน่วยงานภายนอก และร่วมเสวนาในประเด็นการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 สู่การอยู่ร่วมกันกับป่าได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งมีการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ป่าอนุรักษ์สู่การขยายผล จากหน่วยงานในสังกัด

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานที่ร่วมดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้บูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กรมป่าไม้ กรมชลประทาน  ในการน้อมนำแนวพระราชดำริไปสู่การปฏิบัติ โดยมีเป้าหมายในการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาแหล่งน้ำ การเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี บนพื้นฐานของการสร้างความสมดุลของระบบนิเวศ ภายใต้แผนบูรณาการและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่โครงการอันเนื่องพระราชดำริให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงจากการพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงใช้เป็นต้นแบบขยายผลการดำเนินงาน และถ่ายทอดแนวคิดในการพัฒนาตามแนวพระราชดำริในมิติต่าง ๆ มุ่งไปสู่วิถีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน