จากกรณีการควบคุมการนำกัญชาเฉพาะส่วนที่เป็นช่อดอกไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรโดยให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้นและห้ามจำหน่าย หากไม่มีใบอนุญาตตามที่เป็นข่าวนั้น

 วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  นายประชัน  ชาวสามทอง ข้าราชการครูบำนาญในฐานะประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรไทย ลุ่มน้ำชีแก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา และที่ปรึกษาเครือข่ายวิสาหกิจผู้ปลูกพืชสมุนไพรโคราช เปิดเผยว่า ไทม์ไลน์ช่วงปี 2562 นโยบายรัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนให้ปลูกกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยชักชวนสร้างแรงจูงใจให้ภาคประชาชนรวมกลุ่มกันส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการบำนาญใช้เงินเก็บมาค่อนชีวิตมาลงทุนหวังเป็นรายได้เลี้ยงชีพยามสูงวัย ส่วนเกษตรกรก็เลิกปลูกมันสำปะหลัง,อ้อย,ข้าวโพด ฯ เมื่อเล็งเห็นน่าจะเป็นรายได้ดีกว่าปลูกพืชตัวอื่นๆ  

 

โดยช่วงแรก ๆ การขอใบอนุญาตต้องผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขั้นตอนยุ่งยากมาก โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัย ระบุมีกล้องวงจรปิด เครื่องเซิฟเวอร์จัดเก็บข้อมูล โรงเรือนมีรั้วแบบปิดทึบและการควบคุมสิ่งแวดล้อม ฯ ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย 65 ประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 การขอใบอนุญาตจดแจ้งง่ายขึ้นมาก ขณะนั้นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่วนใหญ่ไม่ได้อานิสงส์จากราคาขายกัญชากิโลกรัมหลายแสนบาทแต่อย่างใด โดยช่วงปลายปี 66 ราคากิโลกรัมประมาณ 2 หมื่นบาท จากนั้นก็ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือประมาณหลักพันบาท ทำให้ภาคประชาชนต้องหยุดดำเนินการ เนื่องจากไม่คุ้มทุนกับค่าใช้จ่ายและที่สำคัญไม่มีคนรับซื้ออีก ซึ่งกลุ่มของตนมีค่าใช้จ่ายกว่า 2 ล้านบาท ในการสร้างโรงเรือนและวิ่งเต้นขอใบอนุญาต

ทั้งนี้ นายประชัน กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจและเอาการเมืองมาเป็นตัวกำหนดโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ลงทุนรวมมูลค่าทั้งประเทศนับหมื่นล้านบาท ทำให้ล้มเหลวผิดหวังรับสภาพหนี้สินเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มนายทุนสามารถปรับเปลี่ยนปลูกพืชตัวใหม่และไม่ต้องแบกรับภาระเงินกู้จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ทั้งนี้เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีวิถีชีวิตร่วมกันและรวมตัวกันประกอบกิจการ สร้างงาน สร้างรายได้และเพื่อการพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชนไม่สามารถเดินต่อได้และเลิกล้มกิจการเพราะหมดทุน เพื่อความอยู่รอดต้องลดค่าใช้จ่ายลงกว่าครึ่งในระหว่างรอความชัดเจนของกฎหมาย “ฝากถึงผู้มีอำนาจในบ้านนี้ เมืองนี้ อย่าเอาชนะคัดคานทางการเมือง ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักสำคัญ มิเช่นนั้นจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสที่มีพืชเศรษฐกิจตัวใหม่”