ชุด ศปอส.ภาค 6 ร่วมกับ สืบสวนภาค 6 ร่วมกัน เปิด OPT จับกุม เครือข่าย หลอกลงทุนเทรดทองคำ มูลค่าความเสียหาย กว่า 18 ล้าน
วันที่ 24 มิ.ย.68 คดีท้องที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร จับกุม เครือข่าย บัญชีม้า ม้าถอนเงิน ผู้สั่งการให้โอนเงินชาวไทย ผู้รวบรวมเงินให้หัวหน้าชาวไทย ที่ติดต่อกับผู้บริหาร Boss ชาวจีน โดยขบวนการร่วมกัน ถอนเงินอยู่ที่ พื้นที่ กทม. และปริมณฑล ตามหมายจับ รวม 11 ราย โดย แบ่งทีม OPT. ตรวจค้น ตรวจยึด จับกุมได้ จำนวน 8 ราย หลบหนีไป 3 ราย (อยู่ในระหว่างเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัว) ตรวจยึด ของกลาง และ ตาม พรบ.ฟอกเงินฯ เงินสดสกุลไทย/จีน มูลค่ากว่า 130,000 บาท ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ กว่า 10 เครื่อง รถยนต์ จำนวน 2 คัน
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 ,พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รอง ผบช.ภ.6 ,พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.เดชพล เปรมศิริ ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตนกลิน รอง ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผบก.สส.ภ.6 ,พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ถาบุญชู ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.วรเชษฐ์ พลขันธ์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.6 ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.เด่นเดียว ดอนตุ้มไพร รอง ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 ,พ.ต.ต.ชาคริส จำนงค์วัย สว.กก.ปพ.ฯ ,ร.ต.อ.ธนกร ยอดยศ รอง สว.กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 ,ส.ต.ต.ภาคิน ไชยชมภู ,ส.ต.ต.จารุกิตติ์ อินนวล กับพวก บก.สส.ภ.6 ได้ร่วมกันจับกุมแล้ว ดังนี้
1. นายต่อศักดิ์ บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุมที่ จ.อุดรธานี เมื่อ 22 มิ.ย.2568
2. นายสมชาย บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุมที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 22 มิ.ย.2568
3. นายฉัตรมงคล บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุม ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 24 มิ.ย.2568
4. น.ส.อริสรา บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุม ที่ จ.ลำพูน เมื่อ 24 มิ.ย.2568
5. นายกรวิทย์ บัญชีม้า+ถอนเงิน จับกุมที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 24 มิ.ย.2568
6. นายแสนคม ผู้รวบรวมเงิน จับกุมที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อ 22 มิ.ย.2568
7. นายธนอนันต์ ผู้สั่งการให้ถอนเงิน ,ผู้รวบรวมเงิน จับกุมที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 22 มิ.ย.2568
8. นายมณชัย Boss รวบรวมเงิน จับกุม ที่ด่านห้วยไร่ จ.แพร่ เมื่อ 23 มิ.ย.2568
ตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวนหลายเครื่อง เงินสด ธนบัตรไทยและจีน มูลค่าประมาณ 130,000 บาท ทั้งนี้ จะได้ทำการสืบสวนจับกุมขยายผลติดตามคนร้าย ตามหมายจับดังกล่าว อีก 3 ราย ต่อไป โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”