กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขยายผลปั้นสหกรณ์สีขาวทั่วประเทศ หลังส่งเสริมใช้หลักธรรมาภิบาลบริหารสหกรณ์ หวังสร้างความโปร่งใสและป้องกันการเกิดข้อบกพร่องในการดำเนินงานของสหกรณ์ ส่งผลต่อการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นจากสมาชิกและหน่วยงานภายนอก ปี 2562 ตั้งเป้าหมายจำนวนสหกรณ์สีขาวเพิ่ม 1,400 แห่ง เปิดรับสหกรณ์ทุกประเภทที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.62 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ดำเนินการการขยายผลโครงการสหกรณ์สีขาวด้วยธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นโครงการที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 โดยเชิญชวนให้สหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีทุนดำเนินงานเกิน 1,000 ล้านบาท ได้นำหลักธรรมาภิบาล 9 ข้อมาใช้เป็นแนวทางในการบริหารกิจการสหกรณ์ เพื่อสร้างความโปร่งใส ป้องกันการเกิดข้อบกพร่องทางบัญชี หรือการดำเนินงานที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์และส่งกระทบถึงตัวสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งหลักธรรมาภิบาล 9 ข้อประกอบด้วย หลักประสิทธิผล หลักประสิทธิภาพ หลักการตอบสนอง หลักภาระรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักการมอบอำนาจ หลักนิติธรรมและหลักความเสมอภาค ทั้งนี้ หลักธรรมาภิบาลจะช่วยให้สหกรณ์ได้รับการยอมรับและความน่าเชื่อถือจากสมาชิกและหน่วยงานภายนอกที่ต้อง ติดต่อธุรกิจร่วมกับสหกรณ์ จากการประเมินผลโครงการในปีที่ผ่านมาพบว่า มีหลายสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการสหกรณ์สีขาวด้วยธรรมาภิบาลแล้ว มีผลงานในเชิงประจักษ์ มีระบบการควบคุมภายในที่ดี การดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสหกรณ์อื่นๆ ขณะเดียวกันปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสหกรณ์ลดน้อยลงและหมดไปในที่สุด รวมถึงช่วยป้องกันปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน สามารถให้บริการจนทำให้สมาชิกมี ความเชื่อมั่นและมีส่วนรวมในการดำเนินงานกับสหกรณ์มากขึ้น ซึ่งในปี 2562 กรมฯ ได้ขยายผลการดำเนินโครงการสหกรณ์สีขาว ด้วยธรรมาภิบาล จำนวน 1,400 แห่ง ขณะนี้มีสหกรณ์ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 823 สหกรณ์ และยังเปิดรับสมัครสหกรณ์ทุกประเภทเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม เพื่อให้สหกรณ์ยึดหลักการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมื่อพระราชบัญญัติสหกรณ์ ปี พ.ศ.2542 มีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็นฉบับปี พ.ศ.2562 และกำลังจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาในอีกไม่นานนี้ โดยได้มีการกำหนดเรื่องธรรมาภิบาลไว้ในกฎหมาย ซึ่งจะต้องออกเป็นกฎกระทรวงให้ถือปฏิบัติ และหากสหกรณ์ที่ดำเนินการตามแนวทางหลักธรรมาภิบาลแล้ว ก็จะเป็นพื้นฐานที่สามารถปฏิบัติให้สอดคล้องตามที่กฎกระทรวงออกมา หรือตามที่กฎหมายกำหนดได้ กรมฯ จึงอยากเชิญชวนให้สหกรณ์ที่สนใจมาสมัครเข้าร่วมโครงการ เพราะธรรมาภิบาลจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการดำเนินการของสหกรณ์ ปัจจุบันมีสหกรณ์หลายแห่งเจริญเติบโตขึ้นมาก สหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งมีมูลค่าสินทรัพย์นับหมื่นล้านบาท สหกรณ์การเกษตรบางแห่งมีทุนดำเนินงาน และมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นพันล้านบาทขึ้นไป ดังนั้น สมาชิกที่นำเงินมาฝากหรือถือหุ้นกับสหกรณ์ ก็ต้องการให้สหกรณ์นั้น มีความน่าเชื่อถือ "โครงการสหกรณ์สีขาวด้วยธรรมาภิบาล จะมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแลให้คำแนะนำแก่สหกรณ์ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กรมตรวจบัญชีสหกรณณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย สำนักงาน กพร. และนักส่งเสริมสหกรณ์ที่มีประสบการณ์ ซึ่งกรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายผลโครงการนี้ ให้ครอบคลุมสหกรณ์ทุกแห่งทั่วประเทศในอนาคต เพื่อให้สหกรณ์ในประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน และเชื่อมั่นว่าหลักธรรมาภิบาลจะช่วยสร้างความมั่นคงและประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้กับสหกรณ์ได้อย่างดี”รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว