กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 6 ต้นโนนมาลัยเผยการจะนำเอากัญชามาเป็นยาเสพติดไม่เห็นด้วยแนะให้ปลูกเสรีเพราะมีประโยชน์มากกว่าโทษ เชื่อเป็นการเมืองมากกว่ารัฐบาลน่าจะหันไปปราบยาบ้าที่กำลังระบาดน่าจะดีกว่านี้

วันที่ 24 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีรัฐบาลแพทองธาร 2 จะนำ‘กัญชา’ กลับไปเป็นยาเสพติดโดยจะให้กัญชาต้องเพื่อการแพทย์เท่านั้น โดยล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ลงนามประกาศกระทรวงสาธาณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2668 โดยระบุว่า...สมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ที่กำหนดให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย หรือมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันประกอบกับปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมายใดมาใช้ควบคุมเป็นการเฉพาะ เพื่อมิให้ใช้ไปในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ จึงควรมีการควบคุมไม่ให้นำกัญชา เฉพาะส่วนที่เป็นช่อดอกไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ของการการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรดังกล่าว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 วรรคหนึ่ง มาตรา 44 และมาตรา 45 (3) (4) (5) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 2 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ข้อ 3 ให้กัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis วงศ์ Cannabaceae เฉพาะส่วนของช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม ข้อ 4 ผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 และผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ผู้รับใบอนุญาตให้ศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา การนำไปใช้ และจำนวนที่เก็บไว้ ณ สถานประกอบการ และให้รายงานข้อมูลนั้น ต่อนายทะเบียนตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด (2) ผู้รับใบอนุญาตให้ส่งออกสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องแจ้งรายละเอียดการส่งออกต่อผู้อนุญาตเป็นรายครั้ง ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด (3) ผู้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องจำหน่ายสมุนไพร ควบคุมให้กับผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 เท่านั้น (4) การจำหน่ายและส่งออกสมุนไพรควบคุมของผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องมาจากแหล่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวที่ดีจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (5) ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุมเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจำหน่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย

โดย ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ และผู้ประกอบวิชาชีพ ทันตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพทันตกรรม ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยของตน

(6) ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (7) ห้ามโฆษณาสมุนไพรควบคุมในทุกช่องทางเพื่อการค้า (8) ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าในสถานที่ตังต่อไปนี้ วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก

ซึ่งการจำหน่ายสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าตามวรรคหนึ่ง (3) ไม่รวมถึงกรณีการจำหน่ายสมุนไพรควบคุมให้กับบุคคลใดๆที่มีใบสั่งจ่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเภสัชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพทันตกรรม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การสั่งจ่ายตามวรรคสอง ให้กำหนดจำนวนหรือปริมาณการใช้ตามความจำเป็นเพื่อการรักษาตัวเป็นการเฉพาะที่ใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน

ข้อ 5 ให้ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 อยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ เฉพาะในส่วนที่เป็นสมุนไพรควบคุมตามประกาศนี้ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ของประกาศฉบับนี้ด้วย ข้อ 5 แบบการรายงาน แบบการแจ้งรายละเอียดการส่งออกสมุนไพรควบคุมรายครั้งและแบบใบสั่งจ่ายให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยคนที่จะซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งจากแพทย์ รวมถึงใบรับรองแพทย์ว่ามีการเจ็บไข้ได้ป่วยประการใด คำสั่งประกาศดังกล่าวสวนความคิดกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกกัญชาที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะมองว่ากัญชามีผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะสามารถรักษาอาการป่วยได้หลายโรค โดยเฉพาะคนชรา

ด้าน นายวิไล อายุ 69 ปี บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านโศกนาค ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ รองประธานวิสาหกิจชุมชนโศกนาค กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์จุดนี้ถือเป็นจุดแรกของประเทศไทย ครั้งนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ตอนนั้นได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดภายใต้ชื่อ”6 ต้นโนนมาลัย”เมื่อวันที่ 11 กพ.2564 หลังจากนั้นเป็นต้นมากลุ่มฯได้ปลูกกัญชาส่งให้โรงพยาบาลคูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สร้างรายได้ให้กับชุมชนมาโดยตลอด สิ่งที่ได้จากการปลูกกัญชา คือส่วนที่เหลือชาวบ้านจะเอาไปบำบัดรักษาโรคได้หลายโรค รากกัญชาเอาไปต้มเป็นสมุนไพรชั้นดี ส่วนอื่นชาวบ้านก็จะเอาไปปรับใช้ตามแต่ละอาการของโรค

ทั้งนี้การที่รัฐบาลพยายามจะกลับเอาไปเป็นยาเสพติด ส่วนตัวมองว่าเป็นการเมืองมากกว่า รัฐควรจะให้ชาวบ้านปลูกเสรีมากกว่า แล้วให้กฎหมายมาควบคุมอีกทีหนึ่ง จริงแล้วรัฐบาลควรจะเร่งแก้ไขปัญหาการระบาดของยาบ้ามากกว่ากัญชา