วันนี้ 29 ม.ค.62 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมการจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2019 (AFC Beach Soccer Championship Thailand 2019) พร้อมด้วย นายวัฒนา จันทนวรานนท์ ประธานคณะที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา นายเสรี จำปาเงิน ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬา นายประดิษฐ์ ทองฉาย หัวหน้าฝ่ายพัฒนากีฬาเพื่อการท่องเที่ยว พล.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ หัวหน้างานเทศกิจเมืองพัทยา ม.ร.อาบูลฟาร์ซ โตโคดาบันเดห์ลู ที่ปรึกษาฝ่ายจัดการแข่งขัน ม.ร.มูฮัมเหม็ด ฟายรอส มูฮิซีน ผู้จัดการฝ่ายจัดการแข่งขัน ผู้จัดการฝ่ายจัดการแข่งขัน นายเศรษฐกรชัย ชื่นตา เลขานุการ ประสานงานฝ่ายจัดการแข่งขัน นายเชิดสกุล สุทธาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดการสนามแข่งขัน และคณะผู้แทนหน่วยงานราชการเมืองพัทยา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับมอบหมายจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือเอเอฟซีเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2019 (AFC Beach Soccer Championship Thailand 2019) ร่วมกับเมืองพัทยา ระหว่างวันที่ 7-17 มีนาคม 2562 ณ แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้เมืองพัทยาในด้านการเป็นศูนย์กลาง การจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาที่ได้มาตรฐาน ส่งเสริมการเป็นเมืองแห่งการกีฬา (Sports City) และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) รวมทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมเศรษฐกิจให้เมืองพัทยาจังหวัดชลบุรีและประเทศไทยในภาพรวม นาย ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ทางเมืองพัทยายินดีที่การเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการแข่งขันและพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งเมืองพัทยาเองก็ถูกคัดเลือกจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ 1 ใน 6 เมืองกีฬาของประเทศไทย และเชื่อว่านี้จะเป็นทัวร์นาเม้นท์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างดี สำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2019 ครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 15 ชาติ ประกอบด้วย อิหร่าน (แชมป์เก่า) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (รองแชมป์เก่า) ญี่ปุ่น เลบานอน มาเลเซีย กาตาร์ คีร์กีซสถาน จีน อิรัก โอมาน บาร์เรน อัฟกานิสถาน ปาเลสไตน์ คูเวต และ ประเทศไทย (เจ้าภาพ) ซึ่งการแข่งขันรายการนี้จะคัดเลือกตัวแทน 3 ชาติ ในอันดับที่ดีที่สุด 1-3 เพื่อเป็นตัวแทนของโซนเอเชีย ในการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก 2019 ที่ประเทศปารากวัย ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2562 ต่อไป