ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากเหตุการณ์ที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพังงา ตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน กฉ-9486 สุรินทร์ ที่บริเวณถนนทางเข้าตัวเมืองพังงา ใกล้กับสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา เวลาประมาณ 03.30 น. โดยภายในรถพบชาย 2 ราย ได้แก่ 1. นายมูหามะ วาเด็ง อายุ 29 ปี ชาว จ.ปัตตานี เป็นผู้ขับขี่  2. นายสุไลมาน กาซา อายุ 27 ปี ชาว จ.ปัตตานี เป็นผู้โดยสาร จากการตรวจค้นภายในรถ เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัย ลักษณะเป็นนาฬิกาจับเวลาเชื่อมต่อสายไฟกับแผงวงจร อัดแน่นอยู่ในถุงพลาสติกใส ซุกซ่อนในสัมภาระส่วนตัวของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยไว้ในวงล้อยางของรถเพื่อความปลอดภัย และเมื่อตรวจสอบโดยหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) พบว่ามีดินระเบิดต่อพ่วงอยู่ด้วย

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้นำรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมอุปกรณ์ต้องสงสัยซึ่งภายในบรรจุสมาร์ตโฟนเชื่อมกับ Pocket WiFi เดินทางจากบ้านสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 23 มิ.ย. โดยใช้ GPS ที่ผู้ว่าจ้างกำหนดเส้นทาง ผ่านจังหวัดสงขลา พัทลุง ตรัง กระบี่ เข้าสู่พังงา มุ่งหน้าจังหวัดภูเก็ต ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสกัดและจับกุมได้

 

ล่าสุด พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วยนายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา  พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.พังงา, พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบช.ภ.8 ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมเรียกประชุมทีมสืบสวนตำรวจภูธรภาค8 สืบสวนภูธรจังหวัดพังงาและสืบสวนสภ.เมืองพังงา จากนั้นได้ร่วมแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า “ทางหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ได้ทำการตรวจสอบและทำลายวงจรที่ต่อเชื่อมกับวัตถุต้องสงสัย ก่อนจะส่งไปทำการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบความเชื่อมโยงในคดี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และประสานหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกต่อไป

สำหรับการปฏิบัติงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจภูธรเมืองพังงา หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD), เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพังงา และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การกำกับดูแลของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ซึ่งทุกขั้นตอนได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องสงสัยทั้ง2คน ไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงแต่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ ในส่วนเป้าหมายที่จะเดินทางไปไหนนั้นเรายังเชื่อไม่ได้เพราะทั้ง2คนพูดไม่ตรงกัน ในเรื่องที่มีส่วนจะเกี่ยวข้องกับการขนอาวุธสงครามมาถูกจับที่จังหวัดพังงาครั้งก่อนนั้น ยังไม่พบความเชื่อมโยงกัน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลอย่างละเอียดและตรวจสอบความเชื่อมโยงในคดีต่างๆเพิ่มเติม 

ขณะที่แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยมีเป้าหมายเดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต และพบว่าที่สามแยกวังหม้อแกงมีจุดตรวจสกัดใหญ่ตำรวจสภ.เมืองพังงา จึงเลี่ยงเส้นทางเข้าตัวเมืองพังงาก่อนเพื่อหลบจุดตรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านชั่วคราวในเส้นทางเข้าตัวเมืองจึงถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว และคาดว่าขบวนการนี้ได้มีการวัสดุที่เกี่ยวข้องบางส่วนเข้าไปยังจังหวัดภูเก็ตแล้ว เพื่อหวังก่อเหตุก่อความไม่สงบในเมืองท่องเที่ยว