วันที่ 24 มิ.ย.68 นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่สังคมมีความเห็นต่างทางการเมืองอย่างรุนแรง เกิดภาวะ “การแบ่งขั้วทางความคิด” หรือ polarization อย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ความคิดและความเชื่อของกลุ่มคนในสังคมแตกแยกอย่างชัดเจน และมักไม่เปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในชีวิตประจำวัน ทั้งในที่ทำงาน ชุมชน และโดยเฉพาะในครอบครัว เนื่องจากแต่ละคนมีแหล่งข้อมูลและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเมื่อต่างวัยมีแนวคิดทางการเมืองที่ขัดแย้งกัน เช่น พ่อแม่ที่ยึดมั่นในค่านิยมและประสบการณ์เดิม ขณะที่ลูกหลานได้รับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียที่รวดเร็วและหลากหลายกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างของกรอบความคิดและมุมมองต่อโลกที่แตกต่างกันอย่างมาก งานวิจัยด้านจิตวิทยาชี้ว่า polarization ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความแตกต่างในแนวคิดเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การเกิดอารมณ์ลบอย่างรุนแรง เช่น ความโกรธ ความกลัว หรือความรู้สึกถูกคุกคาม ซึ่งเมื่อสะสมเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดภาวะเครียดเรื้อรัง (chronic stress) ที่ส่งผลเสียต่อสมองและระบบประสาท รวมถึงการทำงานของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะตึงเครียดตลอดเวลา และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า รวมถึงความขัดแย้งที่บ่อนทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างช้า ๆ

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า เพื่อบรรเทาผลกระทบจากความเห็นต่างดังกล่าว กรมสุขภาพจิตจึงให้ความสำคัญกับการสร้าง “พื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์” (Emotional Safe Space) ภายในครอบครัวและชุมชน โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นได้อย่างอิสระโดยไม่ถูกตัดสินหรือวิจารณ์ พร้อมแนะนำเทคนิคการสื่อสารอย่างสันติ (Nonviolent Communication) ที่ประกอบด้วย 1. การฟังอย่างตั้งใจและเปิดใจ 2. การสะท้อนความรู้สึกแทนการกล่าวโทษ เช่น “ฉันรู้สึกกังวลเมื่อเราเริ่มถกเถียงกัน” แทนการกล่าวโทษว่า “เธอไม่เคยฟังใคร” และ 3. การแสดงความต้องการอย่างตรงไปตรงมาโดยใช้ถ้อยคำที่นุ่มนวลและไม่ก้าวร้าว นอกจากนี้ ยังควรจัดช่วงเวลาที่เรียกว่า “พักจากการเมือง” (political time-out) เพื่อคลายความตึงเครียด เช่น การร่วมกิจกรรมที่เสริมสร้างความสัมพันธ์และความสุขร่วมกันอย่างปลอดภัย เช่น การปลูกต้นไม้ ทำอาหาร เล่นเกม หรือฝึกสมาธิและกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่สีเขียว ซึ่งช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูสมดุลทางจิตใจ หากสมาชิกในครอบครัวประสบภาวะเครียดสะสมรุนแรง หรือความขัดแย้งที่กระทบต่อชีวิตประจำวัน ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น นักจิตวิทยา นักจิตบำบัด หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยสามารถโทรปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับคำแนะนำและการสนับสนุนที่เหมาะสม ทั้งนี้ การสร้างความเข้าใจและความอดทนในครอบครัว รวมถึงการจัดการความเครียดเชิงบวก จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันใจและลดความรุนแรงของความขัดแย้งทางความคิดในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ