ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมท่องเที่ยว “นั่งรถเขียวเที่ยวป่าละอู” ชวนนักท่องเที่ยวผู้โชคดีร่วมสัมผัสเสน่ห์ของสวนทุเรียนท้องถิ่น เยี่ยมชม “ทุเรียนต้นแรก” ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมชิมผลไม้คุณภาพจากสวนป้าช้วนและ Quality Time Farm Stay หนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตร สร้างรายได้สู่ชุมชนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยได้รับเกียรติจาก นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวน “รถเขียว” หรือรถโดยสารประจำทางสายหัวหิน–ป่าละอู นำคณะนักท่องเที่ยวจำนวน 40 คน ซึ่งเป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมของ ททท. ในงาน “มหกรรมเศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ” โดยมี นางสาวจิราวรรณ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ต หัวหิน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมปล่อยขบวนรถ ณ ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน เดินทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งจุดหมายแรกของกิจกรรม คือสวนทุเรียน “ป้าช้วน กลัดเงิน” ที่มีทุเรียนต้นแรกของป่าละอู ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า เมื่อคราวเสด็จเยี่ยมราษฎรที่โรงเรียนอานันท์ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ในปี พ.ศ. 2520 โดยได้นำ พันธุ์ไม้หลากหลาย และต้นพันธุ์ทุเรียนมาแจกจ่ายแก่ชาวบ้านทดลองปลูก หนึ่งในนั้นคือป้าช้วน ซึ่งปลูกทุเรียนต้นดังกล่าวและดูแลเรื่อยมา จนกระทั่งต้นทุเรียนให้ผลผลิตรสชาติดี เป็นที่นิยม และกลายเป็นต้นแบบของทุเรียนพันธุ์หมอนทองป่าละอูในเวลาต่อมา
ด้านนายทศพล ปานน้อย บุตรชายของป้าช้วน และเจ้าของสวนรุ่นปัจจุบัน เปิดเผยว่า ทุเรียนต้นแรกมีอายุกว่า 48 ปี ต้นสูงใหญ่และยังคงให้ผลผลิตทุกปี จำเป็นต้องทำนั่งร้านพยุงกิ่ง และลำต้นไว้เพื่อไม่ให้หักเสียหายเมื่อเจอกระแสลมแรง โดยในฤดูกาลปีนี้ คาดว่าผลผลิตในสวนจะมีมากถึง 20 ตัน ขายในราคากิโลกรัมละ 170 บาท ซึ่งทุเรียนป่าละอูมีลักษณะเฉพาะและเป็นจุดเด่นคือ กลิ่นอ่อน รสชาติหวานมัน เมล็ดลีบ และได้รับเครื่องหมาย GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) รับรองคุณภาพ
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังสวน “Quality Time Farm Stay” แหล่งปลูกผลไม้แบบผสมผสานที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและพักค้างคืนได้ โดยมีผลไม้หลากหลายชนิดให้ชิมและเลือกซื้อ ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด และอาโวคาโด รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัตถุดิบในสวนเอง
ขณะที่ นางสาวสุทิศา รอบคอบ พนักงานการตลาด ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กิจกรรมนั่งรถเขียวเที่ยวป่าละอู จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูผลไม้ สร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยเฉพาะทุเรียน GI ของตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด ทั้งยังเป็นการแนะนำยานพาหนะท้องถิ่นอย่าง “รถเขียว” ให้เป็นทางเลือกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางด้วยเครื่องบิน รถบัส รถไฟ ฯลฯ จากตัวเมืองหัวหินขึ้นสู่ป่าละอูได้อีกทางเลือกหนึ่ง
ส่วน จ.ส.ท.หญิง พรนิภา หิรัญธารา จากโรงเรียนนายสิบทหารบก หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรม กล่าวว่า ทราบข่าวกิจกรรมจากงานมหกรรมเศรษฐกิจพอเพียง จึงสนใจสมัครเข้าร่วม เพราะไม่เคยนั่งรถเขียวมาก่อน และอยากสัมผัสวิถีธรรมชาติของป่าละอู ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนชื่อดัง โดยระบุว่าการจัดกิจกรรมมีความน่าสนใจ เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลตลอดทาง บรรยากาศเป็นกันเอง ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ทุเรียนต้นแรก และยังได้ลิ้มลองผลไม้สด ๆ จากสวน ถือเป็นกิจกรรมที่ดี และควรจัดให้ต่อเนื่องในอนาคต
ทั้งนี้ ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเดินทางไปยังตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ได้ตลอดฤดูผลไม้ โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทุเรียนป่าละอูมีผลผลิตมากที่สุด โดยสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือเลือกใช้บริการรถโดยสาร และต่อด้วยรถเขียว เพื่อสัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติและผลไม้ท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊กของ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์