วันที่ 24 มิ.ย.68  ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต ระบุว่า...

มงคล 101 ฉบับ หลานตา

ได้หนังสือมาใหม่หนึ่งเล่มจากครูสังคม ทองมี เป็นเป็นหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพของคุณตามงคล ศรีตระกูล ผู้รัตตัญญูเพราะมีอายุมงคลยืนยาวถึง 101 ปี ผมไม่รู้จักกับคุณตาเป็นการส่วนตัวทราบแต่เพียงว่าเป็นคุณตาของน้องฮ่องเต้-กนต์ธร เตโชฬาร ศิลปินฟรีแลนซ์ ที่เรียนศิลปะกับครูสังคม ทองมี ตั้งแต่วัยเยาว์และโด่งดังไปทั่วโลกศิลปะ

ดูเหมือนตลอดชีวิตอันยาวนานใช้ชีวิตคุ้มในแบบที่เมื่อถึงวันหมดลมหายใจอย่างคุ้มค่าทั้งครอบครัวได้สร้างรากฐานให้ลูกหลานตลอดจนถึงเพื่อนมิตรสหาย เข้าวัดทำบุญได้เดินทางท่องเที่ยวมีความสุขในปัจจุบันอย่างมีศิลปะวิทยาอย่างมีระบบระเบียบ

เปิดอ่านหนังสืองานศพที่ดูแปลกตากว่าหนังสืองานศพทั่ว ๆ ไป เต็มไปด้วยสีสันไม่หมองเศร้าอาลัยหา โดยเฉพาะข้อเขียนของหลานทั้งสองคือหลานสาวที่ชื่อ ฮูโต๋ ที่เล่าเรื่งความรักความสัมพันธ์กับคณตา

ฮูโต๋ ในที่นี้เป็นชื่อเล่ยที่คุณตาตั้งให้หลานสาวแต่ทว่าชื่อนี้ถ้าไม่ใช่แฟนสามก๊กก็อาจงงๆกับชื่อเพราะชื่อนี้เป็นหนึ่งในเมืองหลวงจีนระยะสั้น ๆ ช่วงสมัยสามก๊กที่โจโฉครองตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีจนถึงเป็นวุ่ยฮ่อง เมืองฮูโต๋เป็นศูนย์กลางอำนาจของโจโฉตลอดช่วงใช้นามฮ่องเต้สั่งการขุนศึกทั้งแผ่นดินจีนในยุคสามก๊กจนกระทั่งแผ่นดินแบ่งเป็นสาม ปัจจุบันเมืองนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวของโจโฉ(ปีที่จัดทริปไปรอบไว้มีโอกาสจะจัดไปอีกครั้ง) ซึ่งเมืองฮูโต๋หรือสฺวี่ชาง เป็นนครระดับจังหวัดตั้งอยู่กึ่งกลางมณฑลเหอหนาน

จบจากบทความคุณฮูโต๋ ก็เป็นข้อเขียนพร้อมภาพประกอบของฮ่องเต้-กนต์ธร เตโชฬาร ใช้ชื่อข้อเขีบนว่า"นิทานพระเจ้าตา" ฮ่องเต้น้องชายของฮูโต๋ เขาจึงบอกเล่าความทรงจำร่วใกันระหว่างหลานตา ผ่านวรรณกรรมเช่น อิเหนา,พระอภัยมณี,สามก๊ก,รามเกียรติ์,สังข์ทอง รวมไปถึงบุคคลในประวัติศาสตร์เช่นสี่สาวงามแผ่นดินจีน,ศรีปราชญ์,สุนทรภู่ รวมไปถึงภาพยนตร์ที่จากคำบอกเล่าครูสังคมว่า ฮ่องเต้ซึมซับเรื่งราวเหล่านี้จากการเล่าให้ฟังของคุณตาตั้งแต่เล็กๆยังไม่เข้าห้องเรียนแบบวิธีการสั่งสมโดยไม่ต้องสอน ความรู้สึกด้อย ๆ สั่งสมจากการฟังมาถึงการอ่านและการคิดวิเคราะห์เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งนอกจากการศึกษาในห้องเรียนที่คุณตาได้บ่มเพาะทำให้กลายเป็นองค์ความรู้ในการสร้างสรรค์ศิลปะเพิ่มเติมจากพรสวรรค์บวกด้วยพรแสวง

อ่านจนจบแล้วถือว่าหนังสืองานศพที่เสมือนผู้จากไปยังอยู่ในความทรงจำของคนในครอบครัวและรูปเล่มหนังสือก็มีชีวิตชีวาและความรู้อย่าฃรื่นรมย์และความตายเป็นเรื่องที่เจอแต่อย่าเศร้าจนฟูมฟายและความืรงจำที่งดงามเหมือนราวว่าผู้จากไปด้วยรอยยิ้มแม้ว่าคนขอบข้างจะต้องสูญเสียน้ำตาด้วยรักอาลัย