สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีความห่วงใยในทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะปู  ที่มีแนวโน้มลดลงเป็นอย่างมากจนเกินกำลังผลิตจากธรรมชาติ ประกอบกับแหล่งประมงเสื่อมโทรมลงในพื้นที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ พระองค์มีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีกินมีอาชีพ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ 

ทรงมีพระราชเสาวนีย์ “...ให้กรมประมงพิจารณาจัดตั้งหน่วยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อเพาะพันธุ์ปลาเก๋าและปู นำไปส่งเสริมช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่...” และทรงช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิ ให้มีอาชีพด้านการประมง มีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันได้ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังแทนปลาเก๋า เนื่องจากความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้สนองพระราชเสาวนีย์ จัดตั้งโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์ปูป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกระบี่ โดยมุ่งเน้นผลิตและปล่อยปูม้าและปูทะเลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นต้นมา เพื่อเพิ่มทรัพยากรปูม้าและปูทะเลในแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นแหล่งศึกษาและพัฒนาการเพาะปูม้าและปูทะเล เป็นแหล่งอบรมความรู้ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปล่อยปูม้าและปูทะเล เพื่อปลูกจิตสำนึกของการรักษา หวงแหน อนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าและปูทะเลร่วมกับป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนให้อุดมสมบูรณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทำให้ทรัพยากรปูม้าและปูทะเลในแหล่งน้ำธรรมชาติไม่หายไปจากพื้นที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ให้มีอาชีพด้านการประมง โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์น้ำและสนับสนุนปัจจัยการผลิต ส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง เป็นการสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงครอบครัวได้ มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีโปรตีนประเภทปลาไว้บริโภคในครัวเรือน ช่วยเพิ่มสารอาหารโปรตีนให้กับประชาชนในพื้นที่ให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์

ในปีพุทธศักราช 2568 กรมประมงมีแผนการดำเนินงานผลิตและปล่อยปูม้าและปูทะเลในพื้นที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ จำนวนทั้งสิ้น 15,000,000 ตัว เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าในแหล่งน้ำธรรมชาติให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ และมีแผนดำเนินงานถ่ายทอดความรู้ด้านการประมง ส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังให้กับเกษตรกรมรพื้นที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มีเกษตรกรเป้าหมาย จำนวน 30 รายต่อปี โดยสนับสนุนให้ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์น้ำ และให้คำแนะนำตลอดระยะเวลาการเลี้ยง พร้อมทั้งสนับสนุนปัจจัยการผลิตลูกปลากะพงขาว และอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อให้เกษตรกรมีอาหารโปรตีนประเภทปลาไว้บริโภคภายในครัวเรือน สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือน และสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตปลากะพงขาวในกระชังได้ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ สามารถเลี้ยงครอบครัว และมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 25657 พบว่า ปลากะพงขาวในกระชังของเกษตรกรได้ผลผลิตเฉลี่ยครัวเรือนละ 63 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 10,710 บาท/ครัวเรือน/ปี

นับเป็นความสำเร็จที่กรมประมง ได้ดำเนินการถ่ายทอดความรู้ด้านการประมง ส่งเสริมการเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังให้กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ให้ได้มีอาหารโปรตีนประเภทปลาไว้บริโภคในครัวเรือน สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงครอบครัวได้ มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าและปูทะเลในแหล่งน้ำธรรมชาติ ช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์หวงแหนทรัพยากรปูม้าและปูทะเล โดยการให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการปล่อยปูม้าและปูทะเล ทำให้เกิดความหวงแหนในการใช้ทรัพยากรปูม้าและปูทะเลในพื้นที่ โดยเห็นได้จากการที่เกษตรกรนำปูไข่นอกกระดองที่ได้จากการทำประมงมาให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์ปู ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกระบี่ เพื่อเพาะฟัก ขยายพันธุ์ และอนุบาลลูกปูม้าและปูทะเลเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป 

“การดำเนินโครงการดังกล่าว ทำให้มีทรัพยากรปูม้าและปูทะเลในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างยั่งยืน ที่สำคัญตอบโจทย์ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระเมตตา ทรงห่วงใยทรัพยากรสัตว์น้ำ และราษฎรในพื้นที่ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ตลอดมา” อธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้าย