เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.68 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐและภาคเอกชนเร่งเดินหน้าการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพื่อเพิ่มกำลังผลิต รับมือความกังวลด้านราคาพลังงาน หลังสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล (Truth Social) เรียกร้องให้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ดำเนินการโดยทันที แม้สถานการณ์ล่าสุดยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกน้ำมัน พร้อมส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ค้าในตลาดว่าอย่าปล่อยให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง โดยย้ำว่า "อย่าเข้าทางศัตรู"

ด้าน คริส ไรต์ รัฐมนตรีพลังงาน โพสต์ตอบกลับผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า "กำลังดำเนินการ"

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากระทรวงฯ จะสามารถผลักดันการขุดเจาะได้อย่างไร เนื่องจากการตัดสินใจส่วนใหญ่อยู่ในมือของภาคเอกชนเป็นหลัก

รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลาดโลกผันผวนหนักเมื่อวันจันทร์ (23 มิ.ย.) โดยช่วงแรก ๆ พุ่งขึ้นเกือบ 6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ก่อนจะปรับลดลงกว่า 7% ในช่วงบ่าย หลังอิหร่านตอบโต้แบบจำกัดพื้นที่ โดยมุ่งเป้าโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์ แต่ยังไม่กระทบต่อเส้นทางขนส่งน้ำมันในภูมิภาค

ทั้งนี้ ไรต์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ ว่า เขาไม่แปลกใจที่ราคาน้ำมันลดลง แม้จะเกิดความตึงเครียด เพราะสหรัฐฯ อยู่ในสถานะพลังงานที่แข็งแกร่งมาก ตามแนวทางที่ทรัมป์เคยวางไว้ให้สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจด้านพลังงาน

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากสถานการณ์ลุกลามและกระทบต่อการเดินเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซ สหรัฐฯ อาจพิจารณาใช้คลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 403 ล้านบาร์เรล โดยสามารถระบายออกได้ในกรณีจำเป็น