“ภูมิธรรม” โวได้"มหาดไทย"คืน ผลงาน รบ.ดีขึ้นแน่ ชี้ปรับ ครม.จบสัปดาห์นี้ ไม่ห่วง "นายกฯอิ๊งค์" โดนนิติสงคราม มั่นใจเสถียรภาพ "รัฐบาล" เตือนม็อบอย่าซ้ำเติมปท.ปูดขนคน "สุรินทร์-บุรีรัมย์" มาเติม ส่วน “วันนอร์” ชี้ปัญหาฝ่ายบริหารไม่กระทบงานสภาฯ เตือน “รบ.อิ๊งค์ 2” อะไรที่เป็นความขัดแย้งอย่าเสนอเข้าสภาฯ

 

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องนิติสงครามต่อนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ไม่ห่วง เพราะดูจากคดีที่มายื่น ไม่มีเหตุผลและหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการได้ และประเด็นต่างๆ ที่ยื่นมา ตนมองว่าหลายประเด็นยื่นมาโดยที่ยังไม่เห็นรายละเอียดเลย บางประเด็นก็ไม่ใช่ความผิดโดยตรงของนายกฯ ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลและเป็นห่วงอะไร คิดแต่เพียงว่าเวลาที่เหลือ ต้องเร่งทำงาน วันนี้นายกฯ ต้องการความเป็นเอกภาพของคนไทยทั้งหมด หากเราสามารถร่วมมือกันได้ก็จะเป็นเรื่องดี เป็นเหตุผลที่พรรคร่วมรัฐบาลร่วมกัน


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนทางกองทัพ ตนในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ทั้งในส่วนโฆษกกระทรวงกลาโหมและ 4 เหล่าทัพ ทุกฝ่ายเป็นเอกภาพ มีการหารือกันตลอด วันนี้ภาพที่ออกมา เหมือนกับว่ากองทัพทำ แต่รัฐบาลไม่ทำ แต่อยากบอกว่าเราคุยกันมาตลอด ซึ่งเราได้มอบอำนาจการจัดการบริเวณชายแดนให้กับผู้บัญชาการทหารบก และกองทัพทุกภาค ไม่ใช่เฉพาะกองทัพภาคที่ 2 แต่เนื่องจากกองทัพภาคที่ 2 เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องที่สุด ซึ่งทุกฝ่ายต้องประสานงานกัน และตนเชื่อว่าปัญหาชายแดนจะดีขึ้น


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ สว. ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อศาลรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ หากศาลรับและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะเหมือนกับกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน และเป็นธรรมดาที่ สว.ต้องแก้เกี้ยว เขาก็ต้องหาทางปกป้องตัวเอง ซึ่งเป็นสิทธิ นายกฯไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้เขาฟ้องกันไป ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้ใช้คำว่านิติสงคราม เพราะเป็นเรื่องที่ท่านใช้บทบาทของในการฟ้องร้องตามกระบวนการ ซึ่งผู้รักษากระบวนการยุติธรรมต้องพิจารณาและตัดสิน เราก็รับทราบและชี้แจงสิ่งต่างๆ เหมือนตนที่เคยถูกฟ้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนก็ทำหนังสือชี้แจงไป ก็ไม่มีอะไร ยังทำงานตามหน้าที่ต่อไปได้


เมื่อถามว่า มั่นใจว่าเสถียรภาพของรัฐบาลยังมั่นคง แม้บางพรรคจะโดดลงจากเรือไปแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าววว่า มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าอย่างแข็งแรง หลังจากปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์นี้ ทุกคนจะได้เห็นการทำงานในมิติใหม่ที่ต่างจากเดิม


เมื่อถามว่า การเดินหน้าของรัฐบาลครั้งนี้ เป็นห่วงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ม็อบเข้ามาก็ต้องมีเหตุผล เพราะวันนี้ประเทศกำลังเดินไปข้างหน้า สิ่งที่กัมพูชาต้องการมากที่สุด คือความอ่อนแอภายในประเทศ ซึ่งวันนี้ไม่มีเหตุผลที่จะมาชุมนุม การอยากแสดงความคิดเห็น หรือมีทัศนคติต่อรัฐบาลและนายกฯ ก็มีสิทธิทำได้ แต่อย่าหวังที่จะทำอะไรให้มากเกินเลยไป เพราะประเทศมาถึงวันนี้บอบชํ้ามามากแล้ว สถานการณ์ขณะนี้มีการรบกันระหว่างประเทศ มีการจะปิดอ่าวนํ้ามัน จะไม่ให้เดินทาง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประเทศรุนแรงอยู่แล้ว ดังนั้น ม็อบก็ไม่ควรเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะมาซํ้าเติม


“แม้ตนจะได้ยินมาว่า มีจังหวัดชายแดนแถวศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ จะการนำคนเข้ามาเติม ตนคิดว่าไม่ควรทำ หากอยากแสดงความเห็น ไม่ต้องเข้ามาก็ได้ สามารถแสดงความคิดเห็นที่จังหวัดได้เลย” นายภูมิธรรม กล่าว


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่เมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการบริหารจัดการงานของสภาผู้แทนราษฎร หลังที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประกาศเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ว่า รัฐสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี การเปลี่ยนแปลงในพรรค การเปลี่ยนจำนวนสัดส่วนฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เป็นเรื่องของรัฐบาล สภาไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่สภามีความพร้อมเมื่อเปิดสมัยประชุมญัตติ หรือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่รัฐบาลเสนอก็ต้องพิจารณากันไป เสียงรัฐบาลจะเป็นอย่างไรให้เป็นเรื่องของที่ประชุม เพราะสภามีอิสระในการลงคะแนน จึงคาดคะเนไม่ได้ แต่หวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการไปได้ เพราะประเทศเรามีปัญหาเยอะทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาชายแดน ถ้าเราไม่สามัคคีกัน ไม่ฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้จะเป็นปัญหาต่อพี่น้องประชาชน    


เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลอยู่ในช่วงเสียงปริ่มน้ำ หากเสียงไม่พอโหวตร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 เกิดอุบัติเหตุการเมืองในช่วงนี้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใช้วิธีใด อะไรที่เป็นปัญหาความขัดแย้งก็ไม่ควรเสนอเข้าสภาชุดนี้ แต่สิ่งที่รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้คือเรื่องงบประมาณต้องแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าพ.ร.บ.งบประมาณฯ จะสามารถผ่านสภาฯวาระ 2 และ วาระ 3 ได้โดยไม่ชักช้า

 
“ยิ่งในภาวะที่ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องการก้อนเงินมาพัฒนาประเทศ ส่วนภาคเอกชนจะลงทุนทำอะไรนั้นย่อมรอรัฐบาลด้วยเช่นกัน เรื่องงบประมาณทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาลจึงต้องช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้งบประมาณออกมาใช้ได้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว     


ประธานสภาฯ กล่าวว่า ส่วนร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์  เบื้องต้นวิป 2 ฝ่ายต้องคุยกันก่อนว่ากฎหมายสำคัญฉบับไหนจะเลือกขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่การพิจารณากฎหหมายก็ขึ้นอยู่อีกว่ารัฐบาลจะขอเลื่อน หรือขอต่อ  ส่วนปัญหาอื่น ฝ่ายค้านและรัฐบาล ก็สามารถกำหนดเส้นทางได้ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ การตรวจสอบอะไรที่ผิดถูกก็มีองค์กรตรวจสอบ แต่งบประมาณหากล่าช้าไปจะเป็นปัญหา ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องใช่งบ ส่วนใครจะมาเป็นรัฐบาลต่อไปก็เป็นเรื่องของนักการเมืองกำหนดว่าใครจะเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล