“นายกฯ” เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ศบ.ทก.”เล็งยกระดับ “ตัดไฟ-เน็ต” ส่วน “แม่ทัพภาคที่2”ขอคนไทยสามัคคีในห้วงประเทศวิกฤต พร้อมขอให้มั่นใจทหารอยู่เคียงข้างประชาชน “ชายแดนไทยเราปลอดภัยแน่นอน”ลั่นหากสู้รบต้อง “ปิดด่าน”ไทย-กัมพูชา ตลอดแนว ขณะที่ ด่านคลองลึกระอุ “กองทัพ” ตอบโต้กัมพูชา “สั่งห้าม“จยย.-รถเข็น” เข้าไทยผ่าน 5 จุดผ่านแดน/จุดผ่อนปรน 

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง เข้ารายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงมาตรการตามแนวชายแดนเพิ่มเติม และ มาตรการเปิด-ปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา ที่มีการปิดไปแล้วในบางจุด และมีบางจุดที่เตรียมจะปิดเพิ่มเติม โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.)และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะเลื่อนการแถลงข่าวเป็นเวลา 18.00 น. จากกำหนดเดิมเวลา 12.00 น. เนื่องจากต้องรอผลการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่นายกฯ เป็นประธานการประชุม  เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับกรณีที่กัมพูชาเป็นแหล่งสแกมเมอร์ โดยมีรายงานว่าอาจจะมีการยกระดับมาตรการเป็นรูปแบบใกล้เคียงกับมาตรการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งขณะนั้น มีมาตรการตัดอินเทอร์เน็ต ตัดไฟ และน้ำมัน บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา

ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกโดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ว่า สำหรับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ผบ.ทบ.ท่านเชื่อมั่นกองทัพภาคที่ 2 ในการทำหน้าที่อยู่แล้ว โดย ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำในเรื่องความรักความสามัคคี มุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ดีที่สุด 

เมื่อถามว่าได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนที่ไปทำกิจกรรมหรือทำสัญลักษณ์แสดงความรักชาติในพื้นที่หรือไม่ เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากับประชาชนชาวกัมพูชา พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เรื่องนี้เราได้มีการชี้แจงมาโดยตลอดการอนุญาตให้ประชาชนได้ขึ้นไปในพื้นที่ต่างๆเป็นไปตามห้วงเวลาและจะมีการประสานแจ้งให้อีกฝั่งรับทราบเช่นกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่ทางฝั่งกัมพูชาได้มีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่เพิ่มเติมขึ้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหา เรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีทางฝั่งกัมพูชา
เมื่อถามว่าวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเรียกหน่วยงานความมั่นคงนั่นอาจมีการยกระดับมาตรการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพิ่มเติมหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คงต้องรอให้ได้ข้อยุติจากนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในทิศทางใดนั้น

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคตว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ดูไปตามสถานการณ์ หากมีการต่อสู้หรือเกิดความไม่เข้าใจกัน ก็มีโอกาส 

เมื่อถามย้ำว่าเป็นการปิดด่านตลอดแนวใช่หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราจะเพิ่มการควบคุม แล้วจะบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเป็นไปได้หมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ห้วงเวลานั้น แต่จะพยายามพูดคุยเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และมองว่าทางรัฐบาลคงมีช่องทางหรือแนวทางในการพูดคุยกับทางกัมพูชา แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ

“แต่จากการประเมินสถานการณ์มีความเป็นไปได้ในอนาคตจะมีการปิดด่านไทย-กัมพูชา ตลอดแนว แต่ทุกอย่างต้องประเมินตามสถานการณ์วันต่อวัน หากเกิดการปะทะหรือเกิดความไม่เข้าใจกันก็มีโอกาสที่จะปิดชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว ซึ่งจะต้องมีการควบคุมเรื่องมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น แต่ยืนยันว่าต้องมีมาตรการ ซึ่งรอดูวันนี้อีกครั้ง ในระดับผู้บริหารของเรา” พล.ท.บุญสิน กล่าว

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ส่วนที่กัมพูชาไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากฝั่งไทย ถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่าน ซึ่งจะต้องควบคุมการเข้า-ออกที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องคัดกรอง ทั้งนี้พร้อมจะอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนชาวกัมพูชา หากเข้ามาเติมน้ำมัน เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ทั้งคนป่วย เด็กนักเรียน รวมถึงการซื้อของอุปโภคบริโภค แต่หากเป็นการซื้อเพื่อการค้า ในจำนวนปริมาณมาก ก็เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในแต่ละด่าน

พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ในวันนี้จะลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ กับ ผบ.ทบ. เพื่อให้กำลังใจ กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ “อยากฝากถึงคนไทยทุกหมู่เหล่าที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ให้มีความรักความสามัคคีของคนในชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในภาวะที่ประเทศวิกฤติเช่นนี้ ส่วนทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจว่าชายแดนไทยเราจะมั่นคงปลอดภัยแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว


วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น.ว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก จะขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดน เพื่อเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่วันนี้กลับไม่มีแรงงานชาวกัมพูชา หลังฝั่งไทยยกระดับตอบโต้ ต่อมาตรการของกัมพูชา ที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากประเทศไทย


ทั้งนี้ กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชาย แดนและการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน(ตั้งแต่ 2 ล้อขึ้นไป)รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิด ชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป จนกว่า จะเปลี่ยนแปลง โดยหลังประตูด่านฝั่งกัมพูชาเปิด เจ้าหน้าที่ไทยได้สั่งให้ยานพาหนะที่พยายามจะข้ามแดนหยุดทันที กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาได้เข้ามาเจรจา ซึ่งเป็นไปด้วยดี โดยทั้งสองฝ่าย "จับมือกัน" ย้ำจุดยืนให้แรงงานกัมพูชาเข้าใจตรงกันว่า รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถเข็น ข้ามแดนไม่ได้ แต่สามารถจอดไว้ฝั่งกัมพูชา และเดินข้ามผ่านช่องคนเดินเข้าสู่ฝั่งไทยได้ตามปกติ


จากนั้นสถานการณ์ในช่วงสายเริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงอยู่ภายใต้สายตาและมาตรการควบคุมเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศ โดยยังไม่มีการประกาศผ่อนปรนหรือกำหนดระยะเวลาของมาตรการนี้แต่อย่างใด