วันที่ 23 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการรวมกลุ่มชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการประชุมทุกวัน สิ่งสำคัญคือการข่าว การเจรจา และการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม ซึ่งทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ส่วนการดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความห่วงใยและต้องตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าอาจมีบุคคลไม่หวังดีหรือกลุ่มมือที่สามเข้ามาก่อเหตุ ดังนั้นการข่าวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งจากภายใน ภายนอก และตำรวจภูธรภาคต่างๆ ต้องสืบสวนหาข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมด้านกำลังพลและอุปกรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตำรวจเตรียมดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ชุมนุมและประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการข่าวการระดมคนจำนวนมากมาร่วมชุมนุม มีเพียงการโพสต์ข้อความเชิญชวนตามปกติในโซเชียลมีเดีย ตำรวจเข้าใจดีว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การปฏิบัติก็มีกฎหมายรองรับเช่นกัน
หากทั้งประชาชนและตำรวจให้ความร่วมมือกัน ความสงบเรียบร้อยก็จะเกิดขึ้น และพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชน โดยในส่วนของการประเมินจำนวนผู้ชุมนุมนั้นยังไม่มีความชัดเจน คาดว่าจะทราบผลการวิเคราะห์ในช่วงวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ตำรวจจัดกำลังพลและเตรียมแผนเผชิญเหตุได้อย่างเรียบร้อย
ซึ่งขณะนี้มีการประสานงานและขออนุญาตจัดการชุมนุมอย่างถูกต้องแล้ว โดยเบื้องต้นอนุญาตให้จัดได้ตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น. และมีการยืนยันการชุมนุมในพื้นที่เดียวคือที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้จัดการชุมนุมในพื้นที่ที่มีการจำกัดและดูแลพิเศษเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีรายงานข่าวยืนยันว่าจะมีการปักหลักค้างคืน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่าส่วนการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นของการชุมนุมในระยะยาวหรือไม่นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลมาเป็นข้อสันนิษฐานและได้เตรียมแผนปฏิบัติการหรือแผนเผชิญเหตุไว้แล้ว ผมว่าทุกคนรักประเทศและไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายอะไร การแสดงออกซึ่งสัญลักษณ์สิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยชอบสามารถทำได้
การชุมนุมนี้ไม่ต้องจับตาบุคคลใดเป็นพิเศษ แต่มองว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มีการรวมตัวกัน และตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แกนนำหลายท่านเป็นผู้ใหญ่ในวงการการเมือง เชื่อว่าสิ่งที่ผ่านมาในอดีตก็เป็นบทเรียนให้กับผู้ชุมนุมว่าหากทำอะไรไป จะเกิดอะไรต่อบ้านเมือง
เมื่อถามถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศว่าจะส่งผลต่อความรุนแรงในการชุมนุมหรือไม่นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ในเรื่องของข้อพิพาททางชายแดน ได้กำชับให้ตำรวจสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหาร และขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่จะต้องช่วยสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน