เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 29 ม.ค.62 ขณะที่ ด.ต.วาทิต บุญทาวงษา พร้อม ส.ต.อ.อานนท์ เหมมะณี ผบ.หมู่งานจราจร สน.ทุ่งสองห้อง ปฏิบัติหน้าที่กวดขันวินัยจราจร บริเวณแยกหลักสี่-แจ้งวัฒนะ ก็พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นฟอร์เวิร์ด ทะเบียน 83-9537 สมุทรปราการ ขับผ่านมา จึงได้เรียกขอตรวจสอบ ปรากฎว่าคนขับรถคันดังกล่าวได้ขับหลบหนี
ทาง ส.ต.อ.อานนท์ จึงได้ขับรถ จยย.ไล่ติดตาม จนกระทั่งมาทันกันที่บริเวณด้านหน้าศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ จึงนำรถจยย.มาจอดขวางไว้ ก่อนเดินลงไปเรียกคนขับเพื่อขอตรวจสอบ โดยทางคนขับรถได้ลดกระจกลงมาพูดคุยด้วยสักพัก แต่จู่ๆ ก็ได้ขับออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยขับชนรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ ทะเบียนตราโล่ 65578 ที่จอดอยู่ด้านหน้าฝั่งคนขับ และลากรถจยย.วิ่งข้ามสะพานข้ามคลองประปา จนเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย
ในระหว่างที่หลบหนีก็ได้เฉี่ยวรถของประชาชน ที่อยู่ในถนนแจ้งวัฒนะได้รับความเสียหาย จำนวน 8 คัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามไปจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่ยางล้อหลังด้านซ้ายและล้อหน้าด้านซ้าย เพื่อสกัดรถบรรทุกคันดังกล่าวให้หยุด โดยทันทีที่รถขับลงจากสะพาน ก็มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจรา จร สภ.ปากเกร็ด ได้ตั้งด่านสกัดจับและสามารถหยุดรถบรรทุกไว้ได้ ที่หน้าโชว์รูมโตโยต้า สาขานนทบุรี ถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้นได้ใช้สารเคมีฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้รถ จยย. ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งคัน พร้อมควบคุมตัวผู้ที่อยู่ในรถบรรทุกทั้ง 3 คน มาสอบปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง
จากการสอบสวนปากคำ 1 ใน 3 ผู้ที่อยู่บนรถบรรทุก 6 ล้อ เบื้องต้นยังให้การวกวนไปมาพร้อมให้การรับสารภาพว่า เพิ่งเสพยาบ้ามา
ทางด้านนายชำนาญ ขวัญแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นทีด้า สีดำ ทะเบียน ชส 5501 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งรถมากับแฟนเพื่อกลับบ้านพัก ย่านเมืองทอง 1 โดยขับรถมาจากถนนวิภาวดี เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ ที่บริเวณแยกหลักสี่ ขณะนั้นรถบรรทุกได้ขับตามหลังมาก่อนจะขับแซงไป และรถของตนโดนชนบริเวณแยกหลักสี่ก่อนถึงศาลปกครอง หลังจากรถบรรทุกเฉี่ยวชนรถตนแล้ว ก็มีตำรวจไล่ติดตามรถบรรทุกคันดังกล่าวไป
ด้าน พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทางคนขับรถยังมีอาการสั่นและยังพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งอาจจะเกิดจากการเสพยาหรือเมาสุรา หรืออาจเกิดจากขนส่งของผิดกฎหมาย เพราะหลังรถมีสินค้าอย่างอื่นมาด้วย ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นสิ่งของจำพวกผ้า ผ้าปูที่นอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์
พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ช่วงนี้มีการเข้มงวดเรื่องมาตรการฝุ่นละออง จึงมีการเข้มงวดเรื่องรถบรรทุกไม่ให้มีการเข้าเมือง เมื่อพบเห็นจึงต้องเรียกให้หยุด ซึ่งรถบรรทุกคันดังกล่าวได้ขับผ่านมา ที่บริเวณใต้สะพานแยกหลักสี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ทุ่งสองห้อง ได้ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร พบเห็นจึงเรียกให้หยุด แต่คนขับรถบรรทุกไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงใช้ยุทธวิธีในการติดตามจับกุม โดยขับรถติดตามมาและใช้วิธีการเบียดให้เข้าทางด้านซ้าย ซึ่งทางคนขับรถบรรทุกทำท่าว่าจะจอดรถ
ขณะนั้นมีกำลังตำรวจส่วนหนึ่งใช้รถจยย.กั้นไว้บริเวณ สะพานทางขึ้นบริเวณหน้าศาลปกครอง เพื่อไม่ให้รถบรรทุกขึ้นสะพาน แต่ทางคนขับรถบรรทุกตัดสินใจขับพุ่งชนรถจยย.ของเจ้าหน้าที่และลากรถจยย.ข้ามสะพานมา 2 สะพาน ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจทำการหยุดยั้งรถ เพื่อไม่ให้ขับต่อไปได้ เพราะอาจเกิดอันตรายกับประชาชน ระหว่างหลบหนีรถบรรทุกได้ขับไปเฉี่ยวชนรถของประชาชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย 6-8 คัน เบื้องต้นเตรียมแจ้ง 4 ข้อหา มีฝ่าฝืนสัญญาณมือ, ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย
ทาง ส.ต.อ.อานนท์ จึงได้ขับรถ จยย.ไล่ติดตาม จนกระทั่งมาทันกันที่บริเวณด้านหน้าศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ จึงนำรถจยย.มาจอดขวางไว้ ก่อนเดินลงไปเรียกคนขับเพื่อขอตรวจสอบ โดยทางคนขับรถได้ลดกระจกลงมาพูดคุยด้วยสักพัก แต่จู่ๆ ก็ได้ขับออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยขับชนรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ ทะเบียนตราโล่ 65578 ที่จอดอยู่ด้านหน้าฝั่งคนขับ และลากรถจยย.วิ่งข้ามสะพานข้ามคลองประปา จนเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย
ในระหว่างที่หลบหนีก็ได้เฉี่ยวรถของประชาชน ที่อยู่ในถนนแจ้งวัฒนะได้รับความเสียหาย จำนวน 8 คัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามไปจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่ยางล้อหลังด้านซ้ายและล้อหน้าด้านซ้าย เพื่อสกัดรถบรรทุกคันดังกล่าวให้หยุด โดยทันทีที่รถขับลงจากสะพาน ก็มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจรา จร สภ.ปากเกร็ด ได้ตั้งด่านสกัดจับและสามารถหยุดรถบรรทุกไว้ได้ ที่หน้าโชว์รูมโตโยต้า สาขานนทบุรี ถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้นได้ใช้สารเคมีฉีดสกัดเพลิงที่ลุกไหม้รถ จยย. ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งคัน พร้อมควบคุมตัวผู้ที่อยู่ในรถบรรทุกทั้ง 3 คน มาสอบปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง
จากการสอบสวนปากคำ 1 ใน 3 ผู้ที่อยู่บนรถบรรทุก 6 ล้อ เบื้องต้นยังให้การวกวนไปมาพร้อมให้การรับสารภาพว่า เพิ่งเสพยาบ้ามา
ทางด้านนายชำนาญ ขวัญแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นทีด้า สีดำ ทะเบียน ชส 5501 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งรถมากับแฟนเพื่อกลับบ้านพัก ย่านเมืองทอง 1 โดยขับรถมาจากถนนวิภาวดี เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ ที่บริเวณแยกหลักสี่ ขณะนั้นรถบรรทุกได้ขับตามหลังมาก่อนจะขับแซงไป และรถของตนโดนชนบริเวณแยกหลักสี่ก่อนถึงศาลปกครอง หลังจากรถบรรทุกเฉี่ยวชนรถตนแล้ว ก็มีตำรวจไล่ติดตามรถบรรทุกคันดังกล่าวไป
ด้าน พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทางคนขับรถยังมีอาการสั่นและยังพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งอาจจะเกิดจากการเสพยาหรือเมาสุรา หรืออาจเกิดจากขนส่งของผิดกฎหมาย เพราะหลังรถมีสินค้าอย่างอื่นมาด้วย ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นสิ่งของจำพวกผ้า ผ้าปูที่นอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์
พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวต่อว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ช่วงนี้มีการเข้มงวดเรื่องมาตรการฝุ่นละออง จึงมีการเข้มงวดเรื่องรถบรรทุกไม่ให้มีการเข้าเมือง เมื่อพบเห็นจึงต้องเรียกให้หยุด ซึ่งรถบรรทุกคันดังกล่าวได้ขับผ่านมา ที่บริเวณใต้สะพานแยกหลักสี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ทุ่งสองห้อง ได้ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร พบเห็นจึงเรียกให้หยุด แต่คนขับรถบรรทุกไม่หยุด เจ้าหน้าที่จึงใช้ยุทธวิธีในการติดตามจับกุม โดยขับรถติดตามมาและใช้วิธีการเบียดให้เข้าทางด้านซ้าย ซึ่งทางคนขับรถบรรทุกทำท่าว่าจะจอดรถ
ขณะนั้นมีกำลังตำรวจส่วนหนึ่งใช้รถจยย.กั้นไว้บริเวณ สะพานทางขึ้นบริเวณหน้าศาลปกครอง เพื่อไม่ให้รถบรรทุกขึ้นสะพาน แต่ทางคนขับรถบรรทุกตัดสินใจขับพุ่งชนรถจยย.ของเจ้าหน้าที่และลากรถจยย.ข้ามสะพานมา 2 สะพาน ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจทำการหยุดยั้งรถ เพื่อไม่ให้ขับต่อไปได้ เพราะอาจเกิดอันตรายกับประชาชน ระหว่างหลบหนีรถบรรทุกได้ขับไปเฉี่ยวชนรถของประชาชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย 6-8 คัน เบื้องต้นเตรียมแจ้ง 4 ข้อหา มีฝ่าฝืนสัญญาณมือ, ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย