วันที่ 22 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่จุดขุดลอกแม่น้ำสาย บริเวณหัวฝาย ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการขุดลอกลำน้ำสาย และแนวก่อสร้างพนังกั้นน้ำชั่วคราว-กึ่งถาวร พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรคจากผู้ปฏิบัติงาน โดยมี พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง และ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมให้ข้อมูลในพื้นที่

ดร.สุรสีห์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ลงพื้นที่ติดตามมาตรการรองรับฤดูฝนในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เคยเกิดอุทกภัยรุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณลำน้ำสายและลำน้ำรวกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำหลากและดินโคลนถล่ม

 

“วันนี้ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการส่วนหน้าเพื่อติดตามความคืบหน้าในการขุดลอกลำน้ำสายและลำน้ำรวก ซึ่งดำเนินการโดยความร่วมมือระหว่าง สทนช. และกองทัพบก เพื่อป้องกันน้ำท่วมและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน คาดว่าการขุดลอกลำน้ำรวกจะแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมทั้งมีการดำเนินการอุดรูรั่ว และก่อสร้างแนวป้องกันน้ำชั่วคราวเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ำทะลักเข้าสู่พื้นที่ชุมชนได้”ดร.สุรสีห์ กล่าว

เลขาธิการ สทนช. ยังกล่าวถึงการประเมินระดับน้ำสูงสุดในปี 2567 ซึ่งมีแนวโน้มที่น้ำอาจล้นข้ามสะพานมิตรภาพไทย–เมียนมาแห่งที่ 1 จึงได้มีการวางแผนเสริมแนวป้องกัน โดยก่อสร้างแนวกำแพงชั่วคราวตลอดแนวลำน้ำสายความยาวกว่า 200 เมตร และเตรียมการสำรอง Big Bag พร้อมระบบแจ้งเตือนภัยและการเฝ้าระวังในช่วงฤดูน้ำหลาก

ด้าน พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง กล่าวว่า ภารกิจที่ได้รับมอบหมายในการสร้างแนวป้องกันน้ำ คืบหน้าเป็นไปตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 พร้อมทั้งได้จัดกำลังพลและทรัพยากรในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข ตามนโยบายของกองทัพบก

หลังเสร็จสิ้นการประชุมและรับฟังข้อมูลในพื้นที่ คณะ สทนช. ได้ลงเรือสำรวจจุดก่อสร้างแนวกั้นน้ำชั่วคราว-กึ่งถาวรในลำน้ำสาย และตรวจสอบจุดวัดคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่สาย ก่อนเดินทางต่อไปยังจุดเสี่ยงภัยในตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย ได้แก่ บริเวณคันกั้นน้ำขาด และจุดที่ทางหลวงชนบทเกิดการทรุดตัว เพื่อประเมินความเสี่ยงและเร่งหาแนวทางป้องกันร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ต่อไป