“ทรัมป์” โวทัพสหรัฐฯ ถล่มโรงนุกอิหร่าน 3 แห่ง ด้าน “เนทันายาฮู” ชื่นชมประวัติศาสตร์ต้องจารึก ขณะที่ อิหร่านเผยลอบขนยูเรเนียมมหาประลัย พ้นโรงงานนิวเคลียร์ไปก่อนหน้านั้นแล้ว

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงด้วยความยินดีต่อกรณีที่กองทัพสหรัฐฯ โจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ซึ่งมีการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในการทำอาวุธนิวเคลียร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาในสหรัฐฯ ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง และสามารถทำลายได้อย่างสิ้นซาก

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ตั้งนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ที่ถูกกองทัพสหรัฐฯ โจมตีในครั้งนี้ ได้แก่ ฟอร์โดว์ อิสฟาฮาน และนาทานซ์ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า อาวุธนิวเคลียร์จากที่ตั้งนิวเคลียร์ทั้ง 3 แห่งข้างต้น โดยเฉพาะนาทานซ์ มีศักยภาพทำลายล้างอย่างน่ากลัว

พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเปิดเผยว่า ยังมีเป้าหมายอื่นๆ ในอิหร่าน ที่จะต้องถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก เพื่อให้บังเกิดสันติภาพโดยเร็ว

ทางด้าน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกมากล่าวยกย่องต่อประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ตัดสินใจปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านข้างต้น โดยระบุว่า ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ ซึ่งการโจมตีดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจอย่างยอดเยี่ยมและมีความชอบธรรม

ขณะเดียวกัน ทางด้าน สื่อทางการของอิหร่าน เช่น ทาสนิม รายงานว่า อิหร่านได้เคลื่อนย้ายแร่ยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะแล้วออกจากที่ตั้งนิวเคลียร์เหล่านั้น ก่อนหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ จะโจมตี

ทั้งนี้ ทางการอิหร่าน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องขนย้ายแร่ยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะแล้วออกจากที่ตั้งนิวเคลียร์ข้างต้น เพราะหวั่นเกรงว่า หากถูกกองทัพสหรัฐฯ โจมตี บรรดาแร่ยูเรเนียมดังกล่าว อาจได้รับความเสียหายและเกิดการแผ่รังสีเป็นอันตรายต่อประชาชนชาวอิหร่านได้