มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์(มวล.) นำผลงานนวัตกรรมจากความเชื่อสู่การรักษ์โลก ภายใต้โครงการวิจัย'ศรีชล‘ วัดเจดีย์ ไอ้ไข่ ร่วมโชว์ในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2568 มุ่งสร้าง Soft Power ของประเทศไทย

21 มิถุนายน 2568 รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ รองอธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า โครงการวิจัย "การจัดการทุนทางวัฒนธรรมฐานความเชื่อโดยรอบสันทรายโบราณเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช หรือโครงการ‘ศรีชล’ จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้นำเสนอ 3 นวัตกรรมสำคัญที่เปลี่ยนขยะจากการแก้บนให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ภายใต้การสนับสนุนจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนระดับพื้นที่ (บพท.)โดยมี "วัดเจดีย์" และไอ้ไข่ เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงความรู้ ภูมิปัญญา และพลังแห่งศรัทธาท้องถิ่น ในงาน "มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ2568 ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษานักวิจัย และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมชมนิทรรศการจำนวนมาก พร้อมคว้ารางวัลชมเชยจากเวทีดังกล่าวด้วย

รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ กล่าวว่า 3 นวัตกรรมจากความเชื่อสู่การรักษ์โลก ดังกล่าวประกอบด้วย 1) "กระเป๋าหางประทัด" แปรรูปหางประทัด 999 ชิ้นต่อกระเป๋า 1 ใบ ผสานเทคนิคจักสานดั้งเดิมเป็นแฟชั่นร่วมสมัย 2)"อิฐต่อ ก่อบุญ" ซึ่งนำเศษประทัดและไก่ปูนปั้นมาผลิตอิฐก่อสร้างคุณภาพสูง และ 3) "Art Toy ไก่ศรัทธา"แปรรูปเศษไก่ปูนปั้นเป็นตัวการ์ตูน "น้องร่ำรวย น้องร่ายรำ และน้องร่าเริง" ที่ผสมผสานศิลปะโนราห์และวัฒนธรรมไทย-จีน

ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นต้นแบบการแก้ปัญหาขยะจากกิจกรรมทางศาสนาอย่างสร้างสรรค์ ส่งเสริม "Soft Power" ของไทยผ่านผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนความเชื่อศรัทธา ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างชัดเจน ที่สำคัญยังแก้ปัญหาขยะล้นวัดอย่างยั่งยืน

”ผลิตภัณฑ์กระเป๋าหางประทัดต้นทุน 200-700 บาท ชาวบ้านสามารถขายได้ 499-1,999 บาท ส่วนอิฐต่อก่อบุญสร้างรายได้เสริม 15,000 บาทต่อเดือน และลดค่าจัดการขยะลงได้อย่างน้อย 50,000 บาทต่อปี“ รศ.ดร.ศิวฤทธิ์ กล่าวในตอนท้าย