สุรินทร์ รถบรรทุกพ่วงร่วม 50 คัน จอดจองคิวรอข้ามแดนไปขนมันสัมปะหลังที่กัมพูชา วุ่นกับข่าวลือสั่งห้ามนำเข้าหรือแค่คุมเข้ม
วันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศกัมพูชา หลังพบความตึงเครียดของสถานการณ์การค้าชายแดน โดยเน้นย้ำจุดยืนรัฐบาลปกป้องเกษตรกรไทยและดูแลเสถียรภาพราคาภายในประเทศเป็นอันดับแรก โดยกระทรวงพาณิชย์ สั่งคุมเข้มการนำเข้า มันสำปะหลังจากกัมพูชา ให้นำเข้าได้ จำนวน 5 จังหวัด 6 ด่าน และห้ามขนย้ายมันสำปะหลังสดและมันเส้น ในปริมาณตั้งแต่ 10,000 กิโลกรัมขึ้นไป เข้าหรือออก จากพื้นที่ควบคุม 60 อำเภอใน 16 จังหวัด ตามรายะเอียดที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันเดียวกันนี้ เวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ไปยังถนนเส้นทางเข้าหน้าด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พบรถบรรทุกพ่วง พากันมาจอดเรียงรายข้างทาง กว่า 40-50 คัน เพื่อจองคิว รอข้ามแดนในวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย.68 นี้ หลังไทยมีมาตรการตอบโต้กัมพูชา ปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดใหม่ โดยเปิดเข้า-ออก เฉพาะวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ เวลา 8 โมงเช้า บ่าย 3 โมงเย็น โดยบางคันได้นำลูกพ่วงมาจอดทิ้งไว้เพื่อจองคิว ก่อนจะขับรถบรรทุกตัวแม่ กลับไป ส่วนบางรายก็มาจอดรถบรรทุก เพื่อนอนเฝ้ารอด่านเปิด ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และจะต้องนอนรออีก 2 คืน
อย่างไรก็ตามการประกาศคุมเข้มมันสัมปะหลังนำเข้าจากกัมพูชา ของกระทรวงพาณิชย์ ดังกล่าว ก็ทำให้ผู้ประกอบการบางรายที่มีรถบรรทุกป้ายขาว ต่างก็ไม่มั่นใจว่าจะข้ามแดนไปได้หรือไม่ เพราะได้ยินกระแสจากกลุ่มคนขับรถบรรทุกด้วยกันบอกว่า จนท.ให้ข้ามแดนได้เฉพาะรถบรรทุกป้ายเหลืองที่มีการขออนุญาติบรรทุกระหว่างประเทศได้ตามกฏหมายอีกด้วยเท่านั้น
ส่วนกระแสข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ สั่งห้ามนำเข้ามันสำปะหลังอย่างเด็ดขาดนั้น ต่างยังไม่ชัดเจน ว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่ และกำลังพากันตรวจสอบเช็คข้อมูลกันว่าแค่สั่งคุมเข้ม หรือสั่งห้ามนำเข้า เพราะช่วงนี้มีข่าวปลอมในโลกโซเชี่ยลออกมาเยอะ อย่างไรก็ตามคนขับรถบรรทุกก็จะพากันนอนรอเช็คความชัดเจนต่อไป หากห้ามนำเข้าจริงก็จะพากันกลับทันที
นายธงชัย ขันกสิกรรม อายุ 64 ปี คนขับรถบรรทุก อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.7 บ.ลำดวน ต.บ้านไทร อ.ราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบชัดเจนว่า คุมเข้ม หรือสั่งห้าม ก็คงจะต้องนอนรอฟังข่าวความชัดเจนต่อไป ตนรับจ้างขับรถบรรทุกให้นายจ้าง ข้ามแดนไปซื้อมันสำปะหลังหัวที่ฝั่งกัมพูชา โดยที่กัมพูชารับซื้อมันสำปะหลังกิโลกรัมละ 90 สตังค์ ไม่เกินหนึ่งบาท นำเข้ามาขายที่โรงแป้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์,อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา แล้วแต่ว่าโรงไหนให้ราคาดี ก็อยู่ที่เปอร์เซ็นต์ของแป้งด้วย โดยมีทั้งนายทุนชาวไทยที่ข้ามไปรับซื้อเอง และก็มีนายทุนชาวกัมพูชาที่จ้างรถบรรทุกพ่วงคนไทยข้ามแดนไปขนมาขาย โดยจ้างบรรทุกตันละ 350 บาท หลังจากด่านเปิดปิดเร็วขึ้น ก็มีรถบรรทุกมันสำปะหลังที่ตกค้างข้ามมาไม่ทัน ก็น่าจะหลายสิบคัน แต่ก็ต้องจอดรอข้ามแดนในวันที่ด่านเปิด แต่ถ้ามีการสั่งห้ามนำเข้า รถที่ตกค้าง ซึ่งเป็นนายทุนผู้ประกอบการไทย ก็คงต้องเทมันออก หรือขายคืนในราคาถูก เพื่อนำรถเปล่าข้ามแดนกลับมา ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตนก็อยากให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเร่งเจรจากันให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว เพราะชาวไทยและกัมพูชาที่หากินบริเวณชายแดนกำลังลำบาก อยากให้จบเร็วๆชาวบ้านจะได้หากินสะดวกขึ้น สงสารทั้งคนกัมพูชาและไทย ที่หาเช้ากินค่ำ ส่วนสาเหตุการที่นำเข้ามันสำปะหลังจากกัมพูชา แล้วจะทำให้ราคามันสำปะหลังไทยตกต่ำนั้น ตนมองว่าโอกาสน้อย เพราะมันสำปะหลังสามารถนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง ทั้งอาหารและเชื้อเพลิง รับซื้อเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ