งานเข้าตรวจสอบท่าเรือ หลังนักท่องเที่ยวร้องค่าเรือในตลาดน้ำแพง
จากกรณีที่มีเพจเฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ วันนี้ไปตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่หนึ่งมาค่ะ รวมค่านั่งเรือ 3 คน 9500 บาท คนขับเรือบอกราคาปกติเหมือนกันทั้งคนไทยและต่างชาติระยะเวลาประมาณ 10 โมง-ไม่เกินบ่ายโมง ต่างชาติ 2 คน ไทย 1
ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์ข้อความออกไปทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นรวมถึงแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปจำนวนมากซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบแล้วก็พบว่า ท่าเรือที่นักท่องเที่ยวพูดถึงคือท่าเรือนัมเบอร์วัน ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ 5. ต.ตาหลวง. อ.ดำเนินสะดวก. จ.ราชบุรี
ในวันนี้( 20 มิ.ย.68) นางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนางสาวรุ่งฤทัย เกิดแจ้ง นักวิชาการพานิชย์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้แทนพานิชย์จ.ราชบุรี นายนพดล เพิ่มพูนทวีชัย ปลัดอำเภอดำเนินสะดวก พ.ต.อ.กรฤวิศวร์ ทองศรีวานิช ผกก.1 บก.ททท.3. เจ้าหน้าที่กอ.รมน.จ.ราชบุรี และกรมเจ้าท่า ได้เข้าตรวจสอบท่าเรือต้นเหตุโดยพบกับนางสาวกิ่งกมล (สงวนนามสกุล) พนักงานขายตั๋วในท่าเรือนัมเบอร์วัน ก็ให้ข้อมูลว่า จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวโพสต์เรื่องราวว่าค่าเรือแพง และเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นท่าเรือของตนเอง ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา
โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาโดยรถตู้เข้ามาและขอซื้อแพคเก็ตทัวร์ในการนั่งเรือท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวมา 3 คน เป็นชายชาวญี่ปุ่น 2 คน และคนไทยที่เป็นผู้หญิง 1 คน พร้อมกับต้องการซื้อแพคเก็ตในราคาเหมาจ่ายหัวละ 3000 บาท ซึ่งจะมีโปรมแกรมเพิ่มจากที่ทางท่าเรือตั้งไว้คือค่าเรือชั่วโมงแรก 2000 บาท ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 1000 บาท ซึ่งใน 1 ชั่วโมงนั้นจะมีสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่ง คือ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เตาตาล และวัดปรก แต่นักท่องเที่ยวจะขอไปเที่ยวเพิ่มอีก 2 แห่งคือไปขี่ช้างที่ปางช้างซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกหัวละ 700 บาท และไปดูบ้านกระเหรี่ยงคิดราคาหัวละ 500 บาท ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมค่าเรือและค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวเพิ่มอีก 2 สถานที่ ทางท่าเรือจึงคิดเหมาหัวละ 3000 บาท ส่วนอีก 450 บาท นั้น เนื่องจากลูกค้ามีเงินสดไม่พอจึงขอรูดบัตร ซึ่งทางท่าเรือไม่มีจึงได้ไปรูดบัตรในตัวตลาดดำเนินซึ่งจะมีค่าบริการอีก 450 บาท จึงทำให้รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 9,450 บาท ซึ่งในวันนั้นนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีการต่อรองอะไร แต่กลับมาโพสต์ลงในโซเซียลซึ่งก็ไม่ทราบว่าลูกค้าต้องการอะไร ยอมรับว่าหลังมีกระแสเรื่องนี้ออกไปทางท่าเรือก็มีผลกระทบบ้าง แต่อยากจะให้มีการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ด้านนางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี ก็บอกว่า หลังมีข่าวออกมาก็ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนำค่าใช้จ่ายของทางท่าเรือมาตรวจสอบกับทางประกาศของจังหวัดเรื่องค่าเช่าเรือท่องเที่ยว ก็พบว่าค่าเรือเช่าเหมาลำนั้นเป็นไปตามประกาศของจังหวัด คือชั่วโมงแรก 2000 บาท ชั่วโมงต่อไปชั่วโมงละ 1000 บาท แต่นักท่องเที่ยวนั่งไป 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมเป็นเงิน 4500 บาท แต่นักท่องเที่ยวขอไปเที่ยวสถานที่เพิ่ม ซึ่งเป็นการตกลงกับทางท่าเรือ จึงทำให้มีการคิดค่าบริการเพิ่มรวมเป็นเงิน 9000 บาท ซึ่งอาจจะดูว่าราคาสูงและยังมีค่ารูดบัตรอีก ซึ่งในเรื่องนี้จะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่อย่างไร ทางพานิชย์จังหวัดซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ก็จะได้เชิญทางผู้ประกอบการของท่าเรือไปชี้แจงด้วย ซึ่งเรื่องของราคาที่เพิ่มจากประกาศของทางจังหวัดที่ได้กำหนดไว้นั้นเป็นเรื่องของผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวตกลงกัน หากนักท่องเที่ยวพอใจก็จะตกลงไปใช้บริการ และอยากจะฝากว่าตลาดน้ำดำเนิสะดวกยังรอรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งไม่มีวันหยุดและยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นตลาดน้ำอยู่ ก็อยากจะให้มาท่องเที่ยวกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ
ส่วนนางสาวรุ่งฤทัย เกิดแจ้ง นักวิชาการพานิชย์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้แทนพานิชย์จ.ราชบุรี ก็บอกว่า ทางพานิชย์จังหวัดราชบุรีก็ได้มีประกาศอัตราค่าบริการค่าเรือให้กับทุกท่าเรือได้ปฎิบัติเหมือนกันทุกท่า ในส่วนของการฝ่าฝืนในมาตรา 29 ว่าด้วยพระราชบัญญัติราคาสินค้าและบริการ ห้ามผู้ประกอบการใดจงใจหรือฝ่าฝืนทำให้ราคาสินค้าสูงหรือต่ำเกินสมควร ซึ่งก็จะมีอัตราโทษอยู่ และที่ผ่านมาทางสำนักงานพานิชย์ได้เสนอข้อร้องเรียนของนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคณะกรรมการของจังหวัด ซึ่งได้มีคำพิพากษาแล้วจำนวน 3 ท่าเรือ 5 ข้อร้องเรียน ซึ่งมีทั้งโทษจำและโทษปรับ ก็ขอเตือนให้ทุกท่าเรือได้ปฎิบัติตามคำสั่งของทางจังหวัดราชบุรี รวมทั้งเรื่องของการติดป้ายราคาที่ต้องชัดเจนด้วย
สำหรับบรรยากาศภายในท่าเรือนัมเบอร์วัน หลังจากที่เป็นข่าวก็พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเดินทางมาใช้บริการอยู่ตลอดแต่อาจจะมีลดน้อยลงไปบ้าง แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงที่จะชอบใช้บริการเรือนำเที่ยวที่ไปชมวิถีชีวิตของชาวคลองดำเนินสะดวกอยู่