วันที่ 20 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 โดย พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ และ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 รับผิดชอบงานสืบสวนและงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แถลงผลการจับกุมคดีที่น่าสนใจ ตามนโยบายเน้นหนักของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง เช่นอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ overstay และชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม.

 

พล.ต.ต.ประสาธน์ เปิดเผยว่าสืบเนื่องมาจากชุดสืบสวน  กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับข้อมูลจากสายลับว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้ อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เน้นหนัก ในการกวดขันและปราบปราม  โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. หลังได้รับสั่งการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่เป็นชุดสืบสวน ได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ซึ่งได้รับข้อมูลจากสายลับว่าบุคคลต่างด้าวที่เป็นเป้าหมายมักจะมารับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อนที่ย่านการค้าแห่งหนึ่งใกล้เซ็นทรัลบางนา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันสังเกตการณ์เนื่องจากชุดสืบสวนเชื่อว่า บุคคลต่างด้าวเป้าหมายจะต้องมาปรากฏตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบบุคคลต่างด้าวลักษณะคล้ายคนเกาหลีใต้ มีตำหนิรูปพรรณใกล้เคียงกับที่สายลับแจ้ง เดินออกจากโซนร้านอาหารมาที่บริเวณลาดจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรประจำตัวให้ดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวหรือหนังสือเดินทางของผู้ถูกจับ

ซึ่งผลการตรวจสอบทราบชื่อผู้ถูกจับคือ MR.JI HOON (นามสมมติ) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 66 ปี เดินทางเข้ามาราชอาณาจักรล่าสุด เมื่อปี พ.ศ.2561 วีซ่าเกษียณ อนุญาตถึงกลางปี 2562  การอนุญาตสิ้นสุดลงแล้วกว่า 6 ปี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และควบคุมตัวผู้ถูกจับมาที่ กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้ถูกจับส่ง พงส. กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


 
อีกทั้ง พล.ต.ต.ประสาธน์ ยังกล่าวว่า พฤติการณ์ที่เป็นที่มาของการจับกุม เมื่อปลายปี พ.ศ. 2565 ผู้ต้องหารายนี้ ได้วางอุบายจัดฉากอาชญากรรมโดยจัดหาเด็กสาวอายุไม่เกิน 18 ปีให้กับเหยื่อที่บ้านพักพูลวิลล่าในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี และได้เก็บรวบรวมหลักฐานสำหรับแบล็คเมล์เหยื่อ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีกับผู้เยาว์ พร้อมขู่ว่าจะส่งข้อมูลให้ตำรวจไทย ในพื้นที่พัทยา เพื่อให้เหยื่อถูกจับกุม ต่อมาผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกที่เกาหลีใต้อีกอย่างน้อย 2 คน ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้แล้ว ข่มขู่บังคับให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่ประเทศเกาหลีใต้ คิดเป็นความเสียหายเป็นจำนวน 170,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6 ล้านบาทไทย ต่อมาประเทศเกาหลีใต้ ได้อนุมัติหมายจับ และยื่นคำร้องต่อ NCB ตำรวจสากล ขอให้เผยแพร่ Interpol Red Notice ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมตัวได้ในที่สุด