หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล(สท.)ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการประกาศรับรองผล ทำให้เทศบาลทั่วประเทศได้ทยอยเปิดสภาเพื่อให้นายกเทศมนตรี ได้แถลงนโยบาย
โดยที่เทศบาลนครนครราชสีมา นายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ ประธานสภา ทน.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมสมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 โดยมีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมสมาชิกสภาฯ (สท.) จำนวน 24 คน หัวหน้าส่วนราชการและบุคลากรที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ นพ.วรรณรัตน์ นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ได้กล่าวคำแถลงนโยบาย ทน.นครราชสีมา ซึ่งมีงบประมาณมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและลำดับต้นๆ ของประเทศไทย ว่า ภารกิจสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนโคราชให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนและการบริหารต้องดำเนินการโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาลบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมและมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ให้เกิดแก่ประชาชนเป็นสำคัญ ขณะนี้ ทน.นครราชสีมา กำลังเผชิญโอกาสและความท้าทาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยี จึงต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในพื้นที่และเสียงสะท้อนเป็นสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองให้เจริญเติบโตต่อไป
ทั้งนี้ปัญหาน้ำประปาขาดแคลน ขยะล้นเมือง น้ำท่วมเมือง ปัญหามลพิษทางน้ำและทางอากาศ สภาพจราจรติดขัดและธุรกิจท้องถิ่นซบเซาจนต้องปิดกิจการลง รวมทั้งผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ถือเป็นความท้าทายพร้อมจะประสานพลังกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เมืองโคราช พลิกฟื้นจากปัญหาที่รุมเร้าและได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองที่สะอาด สวยงาม ปลอดภัย ทันสมัย น่าอยู่และน่าท่องเที่ยว รวมทั้งวางรากฐานในการขับเคลื่อนเมืองให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง สู่ความเป็นมหานครแห่งโอกาสและเพื่อประโยชน์สุขและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งรองรับการค้าการลงทุนและการขยายตัวของเมืองในอนาคต
ส่วนที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมสภาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 เพื่อให้นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์แถลงนโยบาย โดยมีนายกมลพันธ์ จีระสมบัติ ประธานสภาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายพรประสิทธิ์ รัตนวิชัย ปลัดเทศบาลฯ ในฐานะเป็นเลขาฯสภา พร้อมด้วย ส.ท.ทั้ง 3 เขต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา พนักงานเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากนี้ยังมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 นายพลากร พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกเทศมนตรีตำบลยางตลาด และประชาชน ได้เดินทางมามอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี และร่วมรับฟังและสังเกตการณ์การแถลงนโยบายในครั้งนี้อีกด้วย
โดยนายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ ได้แถลงนโยบายต่อสภา 7 ข้อหลัก ประกอบด้วย
1.สร้างเมืองให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพ เป็นเมืองที่สร้างสรรค์และปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมอย่างต่อเนื่องโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม
2.สร้างเมืองให้เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจดี โดยการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน หรือการวิจัยและพัฒนา ให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความยั่งยืนตามกรอบแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน
3.สร้างเมืองให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐาน เหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย เป็นเมืองที่มีอารยสถาปัตย์ เพื่อคนทั้งมวล
4.สร้างเมืองให้เป็นเมืองที่มีอัตลักษณ์ของเมือง เป็น Land Mark ของชาว จ.กาฬสินธุ์ให้เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวด้วยทุนทางสังคม ทุนทางวัฒนธรรม นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
5.สร้างคนเพื่อสร้างเมืองด้วยการศึกษา โดยจะพัฒนาการศึกษาในสถานศึกษาของเทศบาลให้มีการพัฒนาทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างมีภูมิคุ้มกัน
6.สร้างเมืองให้เป็นเมืองสิ่งแวดล้อมดี มีคุณภาพ เป็นเมืองที่มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มีพื้นที่สีเขียวที่เพียงพอ ของเสียหรือมลพิษถูกจัดการอย่างเหมาะสม ประชาชนมีวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
7.สร้างเมืองด้วยกลไกภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนายกระดับความร่วมมือให้ประชาชนกับเทศบาลใกล้ชิดกันมากขึ้น แบบรัฐราษฎร์ร่วมใจ มีความสำนึกในการเป็นพลเมือง ใช้เทคโนโลยีในการติดต่อประสานงานการพัฒนา ติดต่อกับเทศบาลที่ทุกเพศ ทุกวัย เข้าถึงได้ง่ายตลอดเวลา
ทั้งนี้นายกีรฒิการย์ ยังระบุอีกว่า ตนและคณะขอให้ความเชื่อมั่นต่อสภาเทศบาลและพี่น้องประชาชนชาวเมืองกาฬสินธุ์ว่า จะบริหารราชการในเทศบาลอย่างเต็มความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะกำกับดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาเทศบาลแห่งนี้ และจะบริหารราชการให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดภายใต้หลักธรรมาภิบาล
รวมทั้งจะเป็นตัวแทนของปวงชนในเขตเทศบาลนี้ เพื่อทำหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ ให้ดีที่สุด เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนเมืองให้ถูกใจ สร้างเมืองใหม่ไปด้วยกัน สร้างสังคมให้ดีขึ้น ประชาชนมีความปลอดภัย และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
สำหรับนโยบายทั้ง 7 ข้อนี้จะเกิดผลสัมฤทธิ์ได้ก็ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนชาวเมืองกาฬสินธุ์ ในการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ร่วมกันพัฒนาร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยมีท่านสมาชิกฯเป็นผู้สนับสนุน เป็นผู้ตรวจสอบ และมีบุคลากรเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นผู้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เมืองกาฬสินธุ์ก้าวไปข้างหน้า และพัฒนาไปสู่เมืองแห่งความสุขต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งแรกที่จะต้องเร่งทำหลังแถลงนโยบายคือการลอกท่อระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังให้กับพี่น้องประชาชน เนื่องจากปัจจุบันนั้นในช่วงหน้าฝน ซึ่งจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการ” นายกีรฒิการย์ กล่าว
ขณะที่เทศบาลตำบลบ้านปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายธนัต ประเสริฐผล ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านปลวกแดง ทำหน้าที่เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมีนายสุวัฒน์ บุตรนามดี นายกเทศมนตรีตำบลบ้านปลวกแดง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เทศบาล เข้าร่วมรับฟังนโยบายอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางความยินดีและการแสดงออกถึงความร่วมมือของทุกฝ่ายในการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกัน
โดย นายสุวัฒน์ บุตรนามดี นายกเทศมนตรีตำบลบ้านปลวกแดง ได้เข้าร่วมการประชุมสภาเทศบาลตำบลบ้านปลวกแดง เพื่อแถลงนโยบายต่อสมาชิกสภา อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ในการแถลงนโยบาย นายสุวัฒน์ ได้ประกาศวิสัยทัศน์การพัฒนาเทศบาลตำบลบ้านปลวกแดงภายใต้แนวคิด "ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อบ้านปลวกแดง" มุ่งเน้นการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมจากประชาชนทุกกลุ่ม โดยยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นโยบายที่ถูกประกาศในวันดังกล่าวครอบคลุมหลากหลายมิติ ทั้งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การซ่อมแซมถนน การขยายระบบระบายน้ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการสาธารณะ รวมถึงการส่งเสริมด้านการศึกษา การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ
“บ้านปลวกแดงจะไม่ใช่แค่เมืองผ่านอีกต่อไป แต่จะเป็นเมืองน่าอยู่ที่เติบโตอย่างสมดุล ชุมชนต้องเข้มแข็ง เศรษฐกิจต้องมั่นคง และสิ่งแวดล้อมต้องยั่งยืน เราจะร่วมกันสร้างบ้านปลวกแดงให้เป็นแบบอย่างของการพัฒนาท้องถิ่นที่แท้จริง” นายสุวัฒน์ กล่าว
ด้าน นายธนัต ประเสริฐผล ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านปลวกแดง กล่าวว่า สภาฯ พร้อมสนับสนุนการดำเนินนโยบายอย่างเต็มที่ สภาฯ จะทำหน้าที่เป็นกลไกตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ และในขณะเดียวกัน ก็พร้อมผลักดันแผนพัฒนาเทศบาลให้เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน”
บรรยากาศภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยพลังแห่งความหวังและความร่วมมือ ทุกภาคส่วนต่างแสดงเจตจำนงร่วมกันที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ พร้อมร่วมมือกันพัฒนาเทศบาลบ้านปลวกแดงให้เจริญก้าวหน้า และเป็นแบบอย่างของการบริหารงานท้องถิ่นที่ยั่งยืน