วันที่ 19 มิ.ย.68 เวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่วัดโคกตะเคียน ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนท.กู้ภัย มูลนิธิสว่างจรรยาธรรม จุดกาบเชิง ได้นำศพของนายทศพร ชื่อเล่น ปอ อายุ 58 ปี อยู่บ้าน ม.17 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอดีตปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน ของ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ และเป็นทนายอาสา เพื่อมาประกอบพิธีฌาปณกิจ หลังจากศพถูกนำส่งผ่าพิสูจน์ที่ รพ.สุรินทร์ ถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งแพทย์ระบุว่า เสียชีวิตจากโรคประจำตัว เส้นเลือดอุดตัน ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
โดยศพของนายทศพรถูกพบเสียชีวิต ที่ห้องพักชั้น 3 ในพื้นที่ชุมชนโอรเสม็ด ต.โอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิงฯเมื่อ วันที่ 17 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4 วัน จากการตรวจสอบในห้องพักพบเงินไทย จำนวน 1,020 บาท เงินกัมพูชา 1,500 เรียล ประมาณ 150 บาทไทยและโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องเท่านั้น ทำให้เกิดความสงสัยว่าจะเป็นการฆาตรกรรมชิงทรัพย์หรือไม่
ก่อนที่ ตำรวจ อ.กรุงสำโรง ของกัมพูชาได้สอบสวนก็ไม่พบว่ามีเหตุจูงใจในการฆ่าชิงทรัพย์และระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ก่อนนำศพไปไว้ที่วัดสิริมงคล ฝั่งกัมพูชา 1 คืน จากนั้นเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.68) นายองอาจ สุขอุ้ม ปลัด อ.กาบเชิง พร้อมด้วย จนท.อส.อ.กาบเชิง จนท.ศูนย์ประสานงานพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และตัวแทนทหาร กกล.สุรนารี พร้อมด้วยรถ จนท.กู้ภัย มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถาน จุดกาบเชิง ได้ประสานกับ จนท.กัมพูชา เพื่อเดินทางไปขอรับศพผู้ตาย ที่วัดสิริมงคล บ.โอรเสม็ด ต.โอรเสม็ด อ.โอรเสม็ด จ.อุดรมีชัย ซึ่งศพบรรจุอยู่ในโลงไม้ ไม่ใช่โลงเย็น เนื่องจากทางกัมพูชาไม่มีโลงเย็น ทำให้มีกลิ่นศพที่ขึ้นอืดคละคลุ้ง ก่อนจะนำศพข้ามแดนไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.สุรินทร์ ว ก่อนรอญาติติดต่อรับศพและได้นำศพมาฌาปณกิจที่วัดโคกตะเคียนในวันนี้ดังกล่าว
โดยพบว่ามีพี่ชายของผู้ตาย ชาว จ.นนทบุรี อายุ 65 ปี ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัว ได้เดินทางมารับศพและให้ จนท.กู้ภัยทำการฌาปณิกิจที่วัดโคกตะเคียนฯดังกล่าวอย่างเรียบง่าย พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปมาสวดบังสุกลก่อนฌาปณิกิจตามลำดับ
พี่ชายของผู้ตาย ไม่ขอเปิดเผยตัว บอกว่า ตนเองไม่ทราบว่าผู้ตายไปเสียชีวิตที่ฝั่งกัมพูชาได้อย่างไร และไม่ทราบว่าเขาออกจากราชการเมื่อไหร่ เพราะไม่ค่อยได้เจอกัน โดยเจอกันล่าสุดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่งานแต่งของเขาที่ จ.นนทบุรี ซึ่งช่วงนั้นเขารับราชการเป็นปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน อยู่ที่ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับข่าวคราวเขาอีกเลย ส่วนเขาจะมีลูกหรือเลิกกับภรรยาแล้วหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ
ล่าสุดก่อนที่พบศพไม่นาน เขาก็พึ่งโทรศัพท์มาขอยืมเงินตนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเขาไม่น่าจะมีเงินถึง 7 แสนบาทที่ว่าหายไป แต่ตนก็ไม่ได้ติดใจในการเสียชีวิต เพราะแพทย์ รพ.สุรินทร์ ระบุว่าว่า เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวเส้นเลือดอุดตัน แล้วน่าจะเกิดอาการวูบล้มเสียชีวิตดังกล่าว เขาเป็นน้องชายคนที่ 5 จากพี่น้องทั้มหมด 7 คน ซึ่งตนก็ขอขอบคุณ จนท.ทุกภาคส่วนที่ช่วยนำศพน้องชายกลับมาทำบุญที่ประเทศไทย ทั้งนี้ จนท.กู้ภัยและผู้ที่ร่วมพิธีฌาปณกิจอดีตปลัดอำเภอ ต่างพากันส่องเลขฝาดลง คือเลข 989 เพื่อนำไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ตามระเบียบอีกด้วย