การเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน แต่ในอดีตผู้พิการ โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตา ต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย ทั้งเรื่องโอกาส สื่อการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้จริง ทำให้หลายคนต้องเก็บความใฝ่ฝันไว้ในใจ ผู้พิการทางสายตาบางคน อาจเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยต้องล้มเลิกความฝันในการเรียนมหาวิทยาลัย เพราะความยากลำบากในการเข้าถึงหนังสือเรียนอักษรเบรลล์หรือไฟล์เสียง ทำให้ตามไม่ทันเพื่อนร่วมชั้น สุดท้ายก็ตัดสินใจออกจากระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาในที่สุด

แสงแห่งโอกาส เสริมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

            แต่ปัจจุบัน ณ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ภาพความลำบากเหล่านั้นกำลังเลือนหายไป ด้วยแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่เปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว สมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือหลักที่ช่วยให้นักศึกษาพิการสามารถเข้าถึงเนื้อหาการบรรยาย วิดีโอสอน และสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ระบบทบทวนบทเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยังช่วยให้นักศึกษาสามารถย้อนกลับมาทบทวนเนื้อหาได้อย่างไม่จำกัดจำนวนครั้ง (คาบเรียนทุกคาบจะบันทึกวิดีโอการสอนให้นักศึกษาทบทวน)

            นวัตกรรมที่เข้ามาเติมเต็มการเรียนรู้ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่ง คือ การพัฒนา “สมุดอ่านกราฟสำหรับเรียนเศรษฐศาสตร์” สื่อการเรียนรู้เฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักศึกษาพิการทางการมองเห็นสามารถทำความเข้าใจแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่มักจะนำเสนอในรูปแบบกราฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมุดอ่านกราฟนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพกราฟนูนต่ำ แต่ยังมีการออกแบบที่คำนึงถึงการสัมผัสและการสื่อสารข้อมูลผ่านพื้นผิวที่แตกต่างกัน ทำให้เส้นกราฟทุกเส้น จุดตัดทุกจุด และข้อมูลทุกตัวเลข กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้และเข้าใจได้

            นายปิยพงษ์ ลิ้มฮกเซ่ง นักศึกษาผู้พิการทางสายตาชั้นปีที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นกับเราว่า “ตอนที่ได้จับสมุดอ่านกราฟครั้งแรก จากที่ไม่เคยเห็นภาพกราฟเศรษฐศาสตร์มาก่อน ตอนนี้ผมสามารถสัมผัสและทำความเข้าใจมันได้จริง ๆ และทำให้การเรียนเศรษฐศาสตร์สนุกและเข้าใจมากขึ้น”

ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ “หัวใจ” ที่ส่งต่อกัน

            นอกเหนือจากนวัตกรรมด้านสื่อการสอน คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ยังให้ความสำคัญกับการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ในมิติที่ลึกซึ้งกว่าเดิม โดยมีนักศึกษาผู้พิการทางสายตารุ่นพี่เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์และสอนการใช้งานเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ ด้วยตนเอง อาจารย์อรอนงค์ นิธิภาคย์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะเศรษฐศาสตร์ อธิบายว่า “เราพบว่าการให้นักศึกษาผู้พิการรุ่นพี่เป็นผู้สอน จะเข้าใจวิถีการเรียนของนักศึกษาด้วยกันได้ดีที่สุด นอกจากนี้เรายังมีกลุ่มผู้พิการทางการเคลื่อนไหวที่เป็นกลุ่มที่มองเห็นจะค่อยช่วยเหลือเพื่อน ๆ ที่มองไม่เห็น เวลาเรียนก็จับคู่บัดดี้กันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน”

            นายธณธาดา กิ้มเฉี้ยง นักศึกษาผู้พิการทางสายตาชั้นปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต หนึ่งในนักศึกษารุ่นพี่ที่ออกแบบกระบวนการสอนนี้กล่าวว่า “ผมเข้าใจดีครับว่าการก้าวเข้ามาเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยสำหรับน้อง ๆ ผู้พิการไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่นี่ ม.รังสิต เรามีกันและกัน ผมกับพี่ๆ ทุกคนพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมให้น้อง ๆ ก้าวข้ามทุกอุปสรรค แบ่งปันประสบการณ์ และเป็นกำลังใจให้กัน เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความฝัน และเราจะร่วมสร้างฝันนั้นให้เป็นจริงไปด้วยกันครับ”

ปลดปล่อยอัจฉริยภาพ การศึกษาคือแสงสว่างที่เท่าเทียม

            รองศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ เปรียบผู้พิการเสมือน “ต้นกฤษณา” ที่มีกลิ่นหอมออกมาจากบาดแผลของลำต้น เช่นเดียวกับผู้ที่มีร่างกายเปราะบาง เขาสามารถแสดงศักยภาพผ่านส่วนที่เปราะบางของร่างกายได้ เมื่อร่างกายส่วนหนึ่งจำกัด ธรรมชาติจะพัฒนาส่วนที่เหลือให้วิเศษขึ้น การให้โอกาสผู้พิการเข้าถึงการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น จึงเป็นการปลดปล่อยอัจฉริยภาพของพวกเขา เพื่อนำสิ่งดี ๆ มาช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ และช่วยเหลือตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี

            การปรับตัวของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เท่าเทียมและเป็นมิตร แต่ยังเป็นต้นแบบที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อสนับสนุนการศึกษาของนักศึกษาพิการให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะการศึกษาคือแสงสว่าง และทุกคนควรมีสิทธิที่จะเข้าถึงแสงนั้นได้อย่างเท่าเทียมกัน