วันที่ 19 มิ.ย.68  "โบว์" ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ระบุว่า...

#เหตุผลที่นายกฯต้องลาออก

สิ่งที่จะไล่เรียงต่อไปนี้ไม่ได้เป็นไปด้วยอารมณ์หรือมีความเกลียดชังใดๆเจือปน ไม่ว่าจะต่อตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง แต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งกับสถานการณ์ปัจจุบัน

#ความผิดพลาดของนายกฯ ที่สะท้อนผ่านคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซนนั้น ไม่ได้อยู่ที่เจตนาในการคลี่คลายสถานการณ์ หรือแม้แต่ท่วงทำนองอันนอบน้อมของบทสนทนาที่พอเข้าใจได้

แต่ความผิดพลาดของนายกฯ อยู่ที่บริบทและเนื้อหาของการสนทนาที่แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความสามารถจะ #บริหารราชการแผ่นดิน ได้ ไม่ว่าจะในการบริหารสถานการณ์ บริหารความสัมพันธ์ หรือบริหารกองทัพ

คลิปเสียงดังกล่าวถูกอัดเมื่อวันที่ #15มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่สองของการประชุม JBC การที่นายกฯไม่หยิบยกประเด็นใหญ่ที่กัมพูชาจะยกข้อพิพาทสี่พื้นที่ขึ้นศาลโลกมาพูดถึงเลย แสดงให้เห็นว่านายกฯสนใจที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการปิดด่านเพื่อให้ได้ quick win หรือความสำเร็จเฉพาะหน้า มาผ่อนคลายสถานการณ์ทางการเมืองของตนก่อนเท่านั้น สังเกตได้จากการพูดย้ำไม่ต่ำกว่าสามรอบว่า #อิ๊งค์โดนหนักมาก และแม้จะเป็นการเลือกเรื่องที่อาจจะคิดว่าเป็นไปได้มาเจรจา ก็ยังไม่สามารถตั้งประเด็นให้เกิดอำนาจการต่อรองได้

สุดท้ายกลับกลายเป็นการ #รับโจทย์ จากฮุนเซนกลับมา และรับปากว่าจะทำให้กลาโหมยอมเปิดด่านได้ ไม่มีการพูดถึงปัญหาการวางอาวุธประชิดชายแดนของกัมพูชา ไม่สามารถเตรียมข้อต่อรองที่มีน้ำหนักล่วงหน้า

วันรุ่งขึ้นคือ #16มิถุนายน นายกฯที่เพิ่ง "รับโจทย์" มาจากฮุนเซน กลับโดนเล่นงานแต่เช้า เมื่อฮุนเซนประกาศกลางวุฒิสภา ขู่ไทยว่าหากไม่เปิดด่านเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านที่เหลือทั้งหมด ทุกอย่างที่คุยกันทางโทรศัพท์หมดความหมายเพียงชั่วข้ามคืน เป็นความตั้งใจวางยา ยั่วยุให้สถานการณ์เข้าใกล้การปะทะไปอีกหนึ่งก้าว

นายกรัฐมนตรีรีบเข้าประชุมที่ #บ้านพิษณุโลก ทันที แล้วออกมาแถลงข่าวอย่างไร้จุดหมาย ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าการประชุม JBC ประสบความสำเร็จ แจ้งเรื่องการตั้งคณะทำงาน การให้เหตุผลโต้คำขู่ของกัมพูชาว่าไทยไม่เคยปิดด่าน รวมถึงการตำหนิฮุนเซนว่าไม่ Professional ที่คุยหลังไมค์กันอย่างแล้วกลับออกมาโพสต์โซเชียลอีกอย่าง ก่อนทิ้งท้ายว่าโลกจะไม่ยอมรับคนที่ไม่รักษากติกา

ในขณะที่นายกฯไม่ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาใดๆ หลังการแถลงข่าวกลับมีการบอกยกเลิกการประชุม #สมช. ที่กำหนดไว้ในบ่ายวันเดียวกัน แล้วใช้เวลาที่ว่างนั้นในการเรียกรองฯอนุทินเข้าพบ โดยมีการปล่อยข่าวว่าเป็นการเรียกเพื่อไปคุยเรื่องปรับ ครม. ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

#อะไรคือเรื่องสำคัญเร่งด่วนในสายตานายกรัฐมนตรี?

หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น ผู้นำรัฐบาลบรรลุภารกิจในการยึดตำแหน่งตามบัญชาของพ่อนายกฯ ในขณะที่พ่อนายกฯกัมพูชาก็ไม่พอใจเนื้อหาในการแถลงข่าวที่ตนถูกถอนหงอกเมื่อเช้า นำสู่การปล่อยคลิปเสียงเพื่อทำลายนายกฯ และทำลายความสัมพันธ์กับประเทศไทยไปอีกขั้นในสองวันต่อมา

#ยุทธวิธีของฮุนเซนเป็นเรื่องน่ารังเกียจ #แต่วุฒิภาวะของนายกฯเป็นเรื่องน่ากลัว

โดยเฉพาะเมื่อนายกฯได้กล่าวถึงแม่ทัพภาคสองว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลนี้กับผู้นำต่างชาติ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์อันแท้จริง ว่านายกฯก็คงไม่พอใจกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารอย่างจงใจของแม่ทัพบ่อยครั้งที่สวนทางกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ตอกย้ำว่ากองทัพกับรัฐบาลไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันอย่างที่พยายามพูดบ่อยๆ และที่สำคัญคือ #รัฐบาลเพื่อไทยบริหารกองทัพไม่ได้ แม้ไม่พอใจความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ทำได้แค่ไปขอความเห็นใจกับคู่กรณี

ซึ่งนี่คือความจริงที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับประเทศประชาธิปไตย

หลังคลิปเสียงถูกปล่อยออกมา กองทัพมีปฏิกิริยาในช่องทางต่างๆทันที ไร้ซึ่งความเคารพยำเกรงต่อนายกฯ แสดงความพร้อมที่จะแข็งข้อ

คงไม่ต้องให้เหตุผลเพิ่มว่าทำไมนายกฯจึงควร “ลาออก” วันนี้.

Bow Nuttaa Mahattana