ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 ที่ บก.ตม.2 พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร และ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. กรณีมาตรการสกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติ วันนี้ บก.ตม.2 ได้รับการประสานงานจาก ตำรวจเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ว่า นาย Su Kai สัญชาติจีน ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์สุดอุกอาจ ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย พร้อมทรัพย์สินของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ต.เชิงรณ กล่าวว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุในร้านกระเป๋าแบรนด์เนมหรู ณ ใจกลางเมืองฮ่องกง โดยแสร้งทำทีเป็นลูกค้าขอทดลองสินค้า เมื่อสบโอกาสได้ใช้ผ้าพันคอพันปากและจมูกพนักงานหญิงจนหมดสติ ก่อนขนกระเป๋าแบรนด์หรูหลบหนีออกจากร้าน แล้วขึ้นเที่ยวบิน TG629 ของสายการบินไทย เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 18 มิ.ย.2568 เวลา 17.43 น.จึงได้สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ รอง ผบก.ตม.2 ซึ่งรับผิดชอบด้านความมั่นคง เข้าควบคุมการปฏิบัติ โดย พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ มีสุข ผกก.สส.ปป.บก.ตม.2 และ พ.ต.อ.เนาวรัตน์ เฉลิมศรี ผกก.ฝ่าย ตม.ขาเข้า ด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ จัดกำลังสืบสวนร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้ต้องหาในพื้นที่อาคารผู้โดยสารอย่างเร่งด่วน จนกระทั่ง พ.ต.ท.หญิง กมลทิพย์ เข็มนาค สว.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 เป็นหัวหน้าชุดนำปฏิบัติการ สามารถควบคุมตัว นาย Su Kai ได้ภายในสนามบิน พร้อมของกลางกว่า 20 รายการ ประกอบด้วยกระเป๋าถือสุภาพสตรี ยี่ห้อแอร์เมส จำนวน 14 ใบ,สร้อยข้อมือแบรนด์ Van Cleef & Arpels 2 เส้นและเงินสดหลากหลายสกุล รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ต.เชิงรณ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ทำการปฏิเสธการเข้าเมือง และดำเนินการผลักดันส่งตัวกลับประเทศเพื่อส่งตัวกลับ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากฮ่องกงจะเดินทางมารับตัวพร้อมของกลางในช่วงเช้าของวันที่ 19 มิถุนายนนี้ นับว่ากรณีนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกฎหมายคนเข้าเมืองและการสกัดอาชญากรรมข้ามชาติ
พล.ต.ต.เชิงรณ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ถึงปัจจุบัน บก.ตม.2 ได้ปฏิเสธการเข้าเมืองของบุคคลกลุ่มเสี่ยงไปแล้วกว่า 10,581 ราย และสัมภาษณ์คัดกรองเชิงลึกอีกกว่า 22,000 ราย เพื่อให้เกิดผลตามนโยบาย ผบ.ตร และ ผบช.สตม.ที่กำชับไม่ให้ประเทศไทยไม่ใช่แหล่งซุกซ่อนของอาชญากร