จนท.ไทย พร้อมกู้ภัยข้ามแดนรับศพ หนุ่มใหญ่วัย 58 ปี ไปชันสูตรหากไม่มีใครติดต่อมาจะนำไปฝังที่มูลนิธิจรรยาธรรมสถาน จ.บุรีรัมย์ ส่วน จนท.ตำรวจกัมพูชา ระบุ เสียชีวิตจากโรคประจำตัว กู้ภัยเผยพบศพคนไทยเล่นพนันนอนตายและผูกคอตายไม่มีญาติมารับหลายรายแล้ว
วันที่ 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้าม จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวกัมพูชาว่า ได้กลิ่นเน่าเหม็นออกมาจากห้องพักชั้น 3 ห้องสุดท้าย ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น แห่งหนึ่งใน หมู่บ้านโอรเสม็ด ต.โอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย จึงได้เปิดเข้าไปดูพบศพชายไทย นอนหงายขึ้นอืดอยู่ที่มุมห้อง สวมเสื้อยืดโปโลคอปก ลายตัด สีน้ำเงิน-ขาว ใส่กางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
จากการตรวจสอบทราบชื่อ คือ นายทศพร ชื่อเล่น ปอ อายุ 58 ปี อยู่บ้าน ม.17 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากการชันสูตรของ จนท.กัมพูชา เบื้องต้น พบว่า มีร่องรอยบาดแผลแตกที่ศรีษะ เลือดไหลนองพื้น สันนิษฐานเบื้องต้นมี 2 ประเด็น อาจจะเกิดจากการลื่นล้มศรีษะฟาดพื้นจนแตก หรือไม่อาจเกิดจากการถูกฆาตรกรรมชิงทรัพย์ เนื่องจากเพื่อนผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้หญิงชาวไทย บอกว่า ผู้ตายเคยบอกว่าตนเองมีเงินสดติดตัว 7 แสนบาท แต่ที่ห้องผู้ตายพบเงินเพียง 1,500 บาท เท่านั้น
ล่าสุด นายองอาจ สุขอุ้ม ปลัด อ.กาบเชิง พร้อมด้วย จนท.อส.อ.กาบเชิง จนท.ศูนย์ประสานงานพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และตัวแทนทหาร กกล.สุรนารี พร้อมด้วยรถ จนท.กู้ภัย มูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถาน จุด อ.กาบเชิง ได้ประสานกับ จนท.กัมพูชา เพื่อเดินทางไปขอรับศพผู้ตาย ที่วัดสิริมงคล บ.โอรเสม็ด ต.โอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ซึ่งศพบรรจุอยู่ในโลงไม้ เนื่องจากทางกัมพูชาไม่มีโลงเย็น ทำให้มีกลิ่นศพที่ขึ้นอืดคละคลุ้ง ก่อนจะมาจอดที่บริเวณหน้าประตูด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม
โดย จนท.ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันบันทึกภาพร่วมกัน ก่อนจะนำศพข้ามแดน เพื่อนำศพไปเก็บไว้ในโลงเย็นที่วัดโคกตะเคียน ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อรอญาติติดต่อกลับมา ว่าจะมารับศพหรือไม่ หลังจากนั้น จนท.กู้ภัย มูลนิธิจรรยาธรรมสถาน อ.กาบเชิง ได้รับการประสานให้นำศพไปตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลสุรินทร์ตามขั้นตอนระหว่างรอญาติติดต่อกลับมา ซึ่งหากไม่มีญาติดต่อกลับพรุ่งนี้เที่ยง จะนำศพไปประกอบพิธีฝังไว้ที่สุสานของมูลนิธิจรรยาธรรมสถาน จ.บุรีรัมย์ต่อไป
เบื้องต้นนายองอาจ สุขอุ้ม ปลัด อ.กาบเชิง เปิดเผยว่า จนท.ของกัมพูชาแจ้งว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากโรคประจำตัวและล้มฟาดพื้นเสียชีวิต ในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ส่วนเงิน 7 แสนบาทที่ว่าหายไปนั้น เป็นการกล่าวอ้างของผู้ตายกับเพื่อนเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างรอญาติติดต่อกลับมา ว่าจะติดใจหรือไม่ หรือจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ไหนอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้แหล่งข่าวทางกัมพูชา ระบุว่า ผู้ตายยังติดหนี้ค่าเช่าห้องพักที่เสียชีวิต อยู่ 2 เดือน ไม่น่าจะมีเงินมากถึงขนาดนั้น และมักจะวนเวียนอยู่ที่บ่อนกาสิโน ขอบัตรทานอาหารฟรีในคาสิโน เป็นประจำ ส่วนวงจรปิดที่พบบุคคลต้องสงสังสัยนั้น ได้สอบปากคำแล้วก็ไม่พบพิรุธหรือสาเหตุจูงใจในการฆาตรกรรมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จนท.กู้ภัยฯยังระบุอีกว่า ในพื้นที่พบบุคคลที่ผูกคอตาย และนอนเสียชีวิตในบ้านเช่า ในลักษณะนี้ ไม่มีญาติมารับศพแล้วหลายราย ปีที่แล้วผู้หญิงนอนตายในห้องเช่า บ.ตาเกาว์ ต.กาบเชิง เป็นคน กทม.มาวนเวียนเล่นบ่อนกาสิโนและเช่าบ้านอยู่นอนเสียชีวิต ก็ไม่มีญาติมารับ และผู้ชายอีกราย ไม่กี่เดือนก่อน ก็ผูกคอตายที่ศาลาข้างทางในหมู่บ้านพาชื่น ต.กาบเชิงฯเป็นคนโคราช ก็วนเวียนมาเล่นพนันในบ่อนาสิโน ทั้งหมดก็ถูกนำไปฝังที่สุสานของมูลนิธิจรรยาธรรมสถาน จ.บุรีรัมย์ อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตร จากทาง รพ.สุรินทร์ ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง