ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยน้องคริสที่อยู่คนเดียวแม่ตายยายตายพ่อติดคุก ยอดทะลุ 1 ล้านบาทครูพาน้องปิดบัญชีขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือ ขณะที่ญาติโผล่ทั้งลุงป้าน้าอาโทรมาบอกคิดถึงน้องคริสหลังดูข่าว ขอรับอาสาขอดูแลมาอยู่ด้วย ด้านส.ส.กำนันผู้ใหญ่บ้านประชุมด่วนบริหารจัดการเงิน ห้ามญาติมายุ่งเรื่องเงินเด็ดขาดหวั่นเกิดปัญหา วางแผนเตรียมซื้อที่ดินสร้างบ้านใหม่ให้น้องแล้ว
วันที่ 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณี ครูโรงเรียนมัธยม ในบ้านบ่อปัทม์ ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ออกเยี่ยมบ้านของ ด.ญ.ฐิชาฏา หรือน้องคริส อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นม.1 ถึงกับช็อคและรู้สึกสงสาร เมื่อน้องคริสอยู่บ้านเดียวอย่างเดียวดาย มีเพียงพี่สาวและป้าที่จะแวะเวียนมาอยู่ด้วยเป็นบางครั้ง เรื่องราวของน้องสุดเศร้า แม่ตาย ยายก็ตาย พ่อติดคุกที่จ.สุราษฏร์ธานี บ้านซึ่งเป็นชื่อของยายจำนองไว้กับธกส. จึงนำเรื่องราวของน้องคริสมาเผยแพร่ โดยครูยืนยันการันตี น้องคริสเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เวลาว่างจะไปเสียบปิ้งไก่หารายได้เสริมได้วันละ 30-50 บาท ถือเป็นเด็กนักเรียนแต่ก็สู้ชีวิต
ต่อมา นายกรวีร์ สาราคำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 จ.อุดรธานี พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.อภิชาติ ชาวสวน ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง,นายทรงวุฒิ ศรีสุนาครัว ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยกำนัน ต.สะแบง และครูในโรงเรียน ได้เดินทางมาเยี่ยมกับน้องคริส พบว่าบ้านที่น้องอยู่เป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคามีรอยรั่วสังกะสีเกือบทุกแผ่น โดยน้องคริสอาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว มีเพียงพี่สาวและป้าจะแวะมาหานานๆ สักครั้ง โดยทางนายกรวีร์ ได้มอบถุงยังชีพและมอบเงินสดให้จำนวนหนึ่ง พร้อมกับรับปากจะส่งเงินให้น้องทุกเดือนเพื่อจะได้มีทุนเรียนต่อจนกว่าจะจบมหาวิทยาลัยหรือชั้นสูงสุดที่น้องคริสต้องการ ส่วนเรื่องบ้านยายที่ต้องอาศัยอยู่ติดจำนองกับธกส.จะได้ประสานกับผจก.ธกส.หาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ล่าสุดวันนี้หลังจากนำเสนอข่าวออกไป ปรากฏว่า ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยน้องคริส มียอดเงินช่วยสนับสนุนการศึกษาโอนเข้าบัญชีของน้องคริสแล้ว จนยอดก่อนแจ้งปิดบัญชีมีจำนวน 1,140,436.50 บาท ขณะเดียวกัน น.ส.พรนิภา ลักษณะจันทร์ คุณครูประจำโรงเรียน ได้พาน้องคริสไปปิดบัญชี ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเพียงพอสำหรับทุนการศึกษาและซื้อที่ดินและสร้างบ้านใหม่ให้น้อง จึงแจ้งมายังผู้ใจบุญน้องคริสขอปิดบัญชีแล้ว
ขณะเดียวกันวันนี้ที่โรงเรียนมัธยมศึกษาปัทมากร บ้านบ่อปัทม์ ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายกรวีร์ สาราคำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 อ.หนองหาน พร้อมด้วยกำนันต.สะแบง,กำนันต.สร้อยพร้าว ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต.สะแบง และพระมหาสุขสันต์ อุตตโม เจ้าอาวาสวัดฯ และผจก.โรงเรียนมัธยมศึกษาปัทมากร คณะครูฯ ได้ร่วมประชุมวางแผนในการบริหารจัดงานเงินของน้องคริส หลังจากที่มีคนไทยจากทั่วประเทศบริจาคช่วยเหลือน้อง
เบื้องต้นวางแผนเก็บเงินในบัญชีไว้ให้น้องในบัญชี โดยบัญชีจะเก็บไว้กับคุณครูที่โรงเรียน จะมีผู้ดูแลบัญชี 5 คน จะมีคนที่เบิกบัญชีได้ 3ใน 5 หากน้องประสงค์ใช้เงิน และให้ใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็น ส่วนกรณีจะไปไถ่บ้านยายที่จำนองไว้กับธนาคาร เบื้องต้นทราบว่าป้าของน้องคริสแจ้งว่า จะหาเงินมาไถ่เอง ทางผู้ร่วมประชุมจึงวางแผนจะซื้อที่ดินใหม่และสร้างบ้านใหม่ให้น้องเลย ตัดปัญหาเรื่องบ้านที่มีญาติๆ หลายคน และปัญหาญาติๆ ที่จะเข้ามาหาน้องในอนาคต โดยในที่ประชุมได้มีข้อตกลง ห้ามญาติๆ มายุ่งกับเงินส่วนของน้องโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นใคร เพราะเงินส่วนนี้เป็นธารน้ำใจที่คนไทยช่วยเหลือน้องโดยเฉพาะ
ส่วน นายกรวีร์ สาราคำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 อ.หนองหาน เผยว่า วันนี้เดินทางมาพูดคุยกับทางผู้นำชุมชนทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เท่าที่ทราบได้รับเงินบริจาคจากสายธารน้ำใจจากคนไทยทั่วประเทศ 1 ล้านบาทเศษ น้องก็สามารถตั้งตัวและเป็นคนดีของสังคมได้ในอนาคต ผมในฐานะผู้ประสานงาน คงให้ทางผู้นำชุมชน และทางครูในโรงเรียน เข้ามาส่วนดูแลตั้งเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อดูแลเงินในส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด กราบขอพระคุณพี่น้องคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งน้องคริสบริจาคมาช่วยน้องคริสเป็นยอดเงินจำนวนมาก รู้สึกอบอกอุ่นใจแทนน้องเป็นอย่างมาก โดยทุกคนสัญญาจะช่วยกันดูแลเงินจากพี่น้องประชาชนให้น้องใช้เกิดประโยชน์สูง
ด้าน พระมหาสุขสันต์ อุตตโม เจ้าอาวาสวัดฯ และผจก.โรงเรียน เปิดเผยว่า หลังจากธารน้ำใจของคนไทยบริจาคเงินมาช่วยเหลือน้องยอดล้านบาทเศษ ทางส.ส.กรวีร์ได้เรียกผู้นำชุมชนมาพูดคุยเรื่องบริหารจัดงานเงินของน้องคริสเพื่อจะได้ใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ให้นอกลู่นอกทาง และแจ้งยอดปิดบัญชีในวันนี้ ในเรื่องบัญชีจะมีคนดูแล 5 คน จะมีครูในโรงเรียน,น้องคริส,ยายบัว,ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนแสงจันทร์และส.อบต. เวลาน้องไปเบิกจะมี 3 ใน 5 ที่จะเบิกได้ โดยโรงเรียนจะดูแลบัญชีให้จนกว่าน้องจบม.6 จะมอบบัญชีให้น้องโดยตรง ช่วงที่อยู่โรงเรียนก็จะช่วยกันดูแลน้องอบรมคุณธรรมจริยธรรมจนกว่าจะไปต่อในรดับมหาวิทยาลัยต่อไป
ขณะที่เเรื่องบ้านที่น้องอาศัยอยู่ตอนนี้ พบว่าเป็นชื่อยายของน้องที่เสียชีวิตไปแล้วและติดจำนองกับธกส.แต่เนื่องจากยายมีลูกหลายคน ห่วงเรื่องปัญหาว่าหากน้องเอาเงินบริจาคไปไถ่จำนองคืนมา ป้าๆ คนอื่นอาจจะไม่ยอมหรือเกิดปัญหาตามมา น้องอาจจะไม่ได้รับสิทธิเป็นเจ้าของบ้าน โดยในสิ้นเดือนนี้ทางป้าๆ ของน้องคริสจะเดินทางมาที่บ้านเพื่อคุยเรื่องบ้าน และทราบว่า ทางป้าจะเป็นเป็นคนหาเงินไปไถ่เอง
ในที่ประชุมจึงมีแผน 2 คือตัดปัญหาเรื่องบ้านที่น้องอยู่อาศัยจะมีปัญหากับป้าๆ จึงประชุมกัน จะหาซื้อที่ดินแปลงเล็กๆ และสร้างบ้านใหม่ให้น้องเลยจะดีกว่า ซึ่งเงินบริจาคก็เพียงพอสำหรับการสร้างบ้าน และเป็นทุนการศึกษาให้น้อง ซึ่งมีที่หลายแปลงใกล้กับบ้านคุณยาย ตอนนี้อาตมาก็เป็นห่วงความปลอดภัยเรื่องน้องเป็นผู้หญิง อยู่บ้านคนเดียว และห่วงญาติๆ ที่เห็นข่าวน้องแล้วมีเงินจำนวนมากจะเข้ามาหาน้อง ซึ่งหลังน้องคริสได้รับความช่วยเหลือจากธารน้ำใจของคนไทยช่วยเหลือได้ยอดเงินเป็นล้าน ปรากฏว่าจู่ๆ ญาติๆ ทั้งลุงป้าน้าอาต่างโผล่จะมาดูแล