คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ ผู้จัดงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์” (FAST Auto Show Thailand) เดินหน้ารับไม้ต่อในการมอบความสุขกระตุ้นเศรษฐกิจไทยช่วงกลางปี จัดแถลงความพร้อมของงาน  “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025”  ผนึกพันธมิตรค่ายรถใหม่หลากแบรนด์และผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วชั้นนำ ร่วมชูคอนเซ็ปต์  “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” ย้ำ “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ไม่จำเป็นต้องรอ พร้อมกิจกรรมความบันเทิงสำหรับครอบครัว ทั้ง PET Friendly เลือกเดินชมงานพร้อมสัตว์เลี้ยงคู่ใจ และการจัดแข่งขัน Strider Racing @Fast Auto Show Thailand 2025 สำหรับเหล่านักซิ่งรุ่นจิ๋ว พร้อมกันนี้ในงานแถลงข่าวยังได้จัดเสวนาส่องเทรนด์รถมือสอง และการยกระดับมาตรฐานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025” เปิดเผยว่า  “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2025 เป็นงานซื้อ-ขายรถยนต์ครบวงจรที่จัดขึ้นในช่วงกลางปี  ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 13 ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดระดับคุณภาพสำหรับพันธมิตร ทั้งค่ายรถใหม่ และผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วชั้นนำ ในการกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อ-ขาย และสร้างโอกาสในการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของประเทศ ด้วยการผนึกกำลังจัดโปรโมชั่นที่จูงใจสำหรับรถใหม่ และเงื่อนไขการรับประกันที่เพิ่มความอุ่นใจสำหรับรถยนต์ใช้แล้ว ด้วยคอนเซ็ปต์ “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการจัดการต้นทุนในครัวเรือนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ให้ความสะดวกและประหยัดเวลาในการ “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” สามารถเปรียบเทียบคุณภาพ การให้บริการ และราคาที่ตรงใจได้ในงานเดียว ซึ่งปีนี้ได้รับการตอบรับด้วยดีเช่นเคยจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์รถใหม่ มาครบทั้งรถสันดาป รถไฟฟ้า และรถพลังงานทางเลือกอื่น ๆ ที่มาพร้อมโปรแบบดุดัน  และสำหรับรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดี  ปีนี้เรายังเป็นงานแรกและงานเดียวในประเทศไทยที่เพิ่มเติมการการันตีไมล์แท้ของรถยนต์ใช้แล้วทุกคันในงาน หากพบว่าไม่ถูกต้อง รับประกันซื้อคืน 100% นอกจากนี้เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุข ภายในงานยังเปิดให้เป็นพื้นที่ Pet Friendly สามารถนำสัตว์เลี้ยงคู่ใจมาร่วมชมงานได้ และจัดแข่งขัน Strider Racing @Fast Auto Show Thailand 2025 สำหรับนักซิ่งรุ่นจิ๋ว วัย 2 - 4 ปี โดยจะยกสนามแข่งมาตรฐานมาไว้ในฮอลล์  ซึ่งจะเปิดให้ฝึกซ้อมในวันธรรมดา และแข่งขันชิงรางวัลในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568”