พื้นที่ “ทุ่งกุลาร้องไห้” ถือเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่มีชื่อเสียงของไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ GI ถือเป็นข้าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication – GI) ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านคุณภาพและกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยปลูกในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ และมหาสารคาม ครอบคลุมพื้นที่ที่มีลักษณะ “ดินเค็ม” ซึ่งแม้จะเป็นข้อจำกัดทางการเกษตร แต่กลับกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ข้าวหอมมะลิจากพื้นที่นี้มีคุณสมบัติโดดเด่น 

ข้าวหอมมะลิ GI ทุ่งกุลาร้องไห้ มีจุดเด่นกลิ่นหอมธรรมชาติ และ เมล็ดเรียวยาว ที่เมื่อหุงสุกจะนุ่มนวลไม่จับตัวเป็นก้อน ปลูกในระบบ เกษตรอินทรีย์ หรือใช้สารเคมีต่ำ สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และเป็นที่ต้องการในตลาดโลก โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

อีกทั้งข้าวหอมมะลิ จากทุ่งกุลาร้องไห้ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างมหาศาล โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาข้าว GI สูงกว่าข้าวทั่วไปถึง 20–30% ต่อกิโลกรัม เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก พร้อมผลักดันสู่ตลาดส่งออกระดับพรีเมียม

ดังนั้น กรมพัฒนาที่ดิน (พด.) มุ่งมั่นส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิ GI แบบยั่งยืนในพื้นที่ดินเค็มทุ่งกุลาร้องไห้ ด้วยการพัฒนาพื้นที่อย่างครบวงจรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 เป็นต้นมา โดยเริ่มจากการสำรวจดินและวางแผนใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร พร้อมปรับปรุงพื้นที่นาเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ผ่านการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการแพร่กระจายของดินเค็ม และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขุดลอกร่องน้ำและเส้นทางคมนาคมในระดับไร่นา

ความร่วมมือเหล่านี้ช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีน้ำใช้ตลอดปี สามารถปรับเปลี่ยนจากเกษตรเพื่อยังชีพเป็นเกษตรเพื่อการค้า ทำให้ทำนาได้ปีละ 1-2 ครั้ง พร้อมทำเกษตรแบบผสมผสาน ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนดีขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงผลผลิตข้าวหอมมะลิ GI มีคุณภาพและปริมาณสูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อย่างมาก

อย่างไรก็ดี เกษตรกรยังมีความต้องการให้หน่วยงานรัฐสนับสนุนการปรับปรุงและบำรุงดินอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับการผลิตสู่ “มาตรฐานเกษตรอินทรีย์” ซึ่งสอดรับกับความต้องการผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นในปัจจุบัน

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 กรมพัฒนาที่ดิน ได้ดำเนิน “โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิ GI แบบยั่งยืนในพื้นที่ดินเค็มทุ่งกุลาร้องไห้” โดยเน้นพื้นที่เป้าหมายในตำบลคูเมืองและตำบลสงยาง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร รวมถึงตำบลน้ำอ้อม อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ครอบคลุมเกษตรกรจำนวน 230 ราย บนพื้นที่กว่า 2,300 ไร่

ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ เช่น การวิเคราะห์สถานการณ์กลุ่มเกษตรกร การปรับปรุงบำรุงดินให้เหมาะสมกับการปลูกข้าวหอมมะลิ 105 การสนับสนุนปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่เหมาะสม รวมทั้งการจัดอบรมความรู้ด้านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์และระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (PGS) โดยความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาที่ดิน และมูลนิธิเกษตรอินทรีย์ไทย

“โดยเป้าหมายสำคัญคือ การเพิ่มคุณภาพข้าวหอมมะลิ GI ให้ผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ สามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง และขยายตลาดทั้งในห้างสรรพสินค้าและตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้มั่นคงให้กับเกษตรกร และส่งเสริมความยั่งยืนทางการเกษตรในพื้นที่ดินเค็มทุ่งกุลาร้องไห้อย่างแท้จริง” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวทิ้งท้าย