วันที่ 16–17 มิถุนายน 2568 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสมดุลอำนาจในรัฐบาลผสม เมื่อกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีพุ่งเป้าไปที่ “กระทรวงมหาดไทย” หนึ่งในกระทรวงยุทธศาสตร์ที่พรรคเพื่อไทยต้องการดึงกลับมาควบคุมอีกครั้ง ขณะที่พรรคภูมิใจไทยประกาศชัด “ไม่ยอม” พร้อมลาออกจากรัฐบาลหากเสียมหาดไทยให้ใคร
ความขัดแย้งที่สะสมมานานระหว่างสองพรรคใหญ่ของรัฐบาลชุดนี้อาจปะทุถึงขีดสุดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และคำถามที่ทุกฝ่ายจับตาคือ หากภูมิใจไทยถอนตัว พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำได้จริงหรือ?
เมื่อ “คำมั่น” กลายเป็น “ชนวนระเบิด”
รายงานข่าวจากหลายสำนักตรงกันว่า วันที่ 16 มิถุนายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เปิดการหารือแบบเผชิญหน้ากับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยมีประเด็นหลักคือการปรับคณะรัฐมนตรี และความประสงค์ของเพื่อไทยที่จะขอกระทรวงมหาดไทยคืน
แม้นายกรัฐมนตรีจะยังไม่ยืนยันในที่สาธารณะ โดยตอบเพียงว่า “เมื่อวานไม่เห็นพูดแบบนี้” เมื่อถูกถามถึงข่าวที่ว่าภูมิใจไทยอาจถอนตัวจากรัฐบาล แต่ท่าทีแข็งกร้าวจากฝั่งภูมิใจไทย และความเงียบจากเพื่อไทย กลับยิ่งตอกย้ำว่ามีการเจรจาเกิดขึ้นจริง
ล่าสุด บ่ายวันที่ 17 มิถุนายน เวลา 15.00 น. รายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ “ขีดเส้นตาย” ให้พรรคภูมิใจไทยตัดสินใจภายใน 48 ชั่วโมง ว่าจะยอมคืนกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ โดยมีข้อเสนอแลกเปลี่ยนให้กระทรวงสาธารณสุข และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 1 ตำแหน่งแทน
พร้อมทั้งมีคำขู่ชัดเจน หากภูมิใจไทยไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าปรับ ครม. โดยไม่มีภูมิใจไทยในครม. หมายถึงการหลุดจากสถานะพรรคร่วมรัฐบาลโดยปริยาย
เส้นตายชี้ขาด คือ 15.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568
เหตุใดเพื่อไทยถึงต้องการ "มหาดไทย" คืน?
กระทรวงมหาดไทยไม่ใช่แค่กระทรวงด้านการปกครองทั่วไป แต่ถือเป็น “เครื่องมือทางอำนาจ” ที่เชื่อมโยงกับทั้งการเมืองระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง นักวิเคราะห์มองว่า พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ 3 ประการที่ต้องการควบคุมมหาดไทย ประกอบด้วย
1. ขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน: โดยเฉพาะนโยบาย Entertainment Complex ที่ต้องอาศัยการออกใบอนุญาตระดับจังหวัด รวมถึงการควบคุมพื้นที่ต่าง ๆ ในโครงการ
2. เตรียมพร้อมเลือกตั้ง: มหาดไทยดูแลองค์กรปกครองท้องถิ่น การได้อำนาจตรงนี้จะช่วยเสริมฐานเสียงระดับรากหญ้าในอนาคต
3. คุมกลไกบริหารภูมิภาค: ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และกลไกฝ่ายปกครองอยู่ใต้การกำกับของกระทรวงนี้ การควบคุมจึงเท่ากับคุมโครงข่ายอำนาจในประเทศ
“วันช็อคมิ้นท์” และปฏิญญาที่ไร้ลายลักษณ์
ย้อนกลับไปหลังเลือกตั้งปี 2566 พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลโดยจับมือกับภูมิใจไทยและพรรคอื่น ๆ แม้จะถูกวิจารณ์หนักว่าทรยศพันธมิตรเดิมอย่างพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชนในปัจจุบันก็ตาม
วันนั้น ที่สื่อเรียกกันว่า “วันช็อคมิ้นท์” มีการตกลงกันแบบไม่เป็นลายลักษณ์อักษรว่ากระทรวงมหาดไทยจะเป็นของภูมิใจไทย นายอนุทินจึงยึดมั่นใน “คำพูด” และยืนยันหนักแน่นว่า “หากเสียมหาดไทย พร้อมถอนตัวจากรัฐบาลทันที”
หากภูมิใจไทยถอนตัว: รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะอยู่รอดหรือไม่?
พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส. 69 คน หากถอนตัวออกจากรัฐบาล จะทำให้เสียงรัฐบาลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่า เสียงรัฐบาลที่เหลือยังคง มากกว่า 260 เสียง จากทั้งหมดประมาณ 495 เสียง
และมี ส.ส. อิสระ หรือจากพรรคฝ่ายค้านบางส่วน ที่อาจพร้อมข้ามขั้วเพื่อหนุนรัฐบาลต่อไป
แม้เสียงจะ “ปริ่ม” แต่ยัง “เกินกึ่งหนึ่ง” ทำให้การบริหารยังเดินหน้าต่อได้ตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามถึงตัวเลขอาจดูปลอดภัยในทางเทคนิค ทว่า ในความเป็นจริงคือรัฐบาลจะเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองมากขึ้น ทั้งจากฝ่ายค้านและประชาชน ที่ตั้งคำถามถึงเสถียรภาพ ความมั่นคง และความชอบธรรมของการบริหาร
วิเคราะห์ทิศทางการเมืองไทย: รัฐบาลใหม่? หรือยุบสภา
1. ปรับ ครม. อาจเกิดช้า หรือไม่เกิดเลย: หากภูมิใจไทยยังไม่ตอบรับ หรือพรรคร่วมอื่นๆ เริ่มลังเล การปรับ ครม. อาจต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปที่กระทรวงอื่นก่อน
2. โอกาสยุบสภา: หากไม่สามารถควบคุมเสียงในสภาได้ รัฐบาลอาจต้องยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่ก็มีความเป็นไปได้
3. ภาพลักษณ์ภูมิใจไทยดีขึ้น: ท่าทีหนักแน่นของพรรคภูมิใจไทยอาจทำให้ฐานเสียงแน่นขึ้น ขณะที่เพื่อไทยอาจถูกมองว่า “หักหลังพันธมิตร” และขาดเสถียรภาพ
เดิมพันใหญ่ของแพทองธาร
การขอกระทรวงมหาดไทยคืนในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่อง “ตำแหน่งรัฐมนตรี” แต่คือการเดิมพันในระดับยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทยทั้งระบบ
การตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทยภายในเส้นตาย 48 ชั่วโมงนี้ จะเป็นตัวชี้ชะตาว่า รัฐบาลผสมที่นำโดยนส.แพทองธารจะอยู่รอดต่อไปในรูปแบบใด หรือจะต้องเดินเข้าสู่โหมดปรับ ครม. ครั้งใหญ่ เปลี่ยนขั้วอำนาจ หรือนำไปสู่การยุบสภาในที่สุด
#เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #ศึกมหาดไทย #ปรับครม2568 #รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ #ยุบสภา #แพทองธาร #อนุทิน #ข่าวการเมือง #วิเคราะห์การเมือง