วันที่ 18 มิ.ย.68 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า...

ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน

ขณะที่คนไทยห่วงใยการเสียดินแดนทางบก สาม เหลี่ยมมรกต กลุ่มปราสาทตาเมือนและปราสาท

ตาควาย. กำลังทหารทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน

อยากย้ำเตือนว่า กองทัพไม่ให้ใครรุกล้ำแน่นอน

ฝ่ายตรงข้ามร่วมมือกับนักการเมืองขายชาติหวังฮุบ

และร่วมกัน​กอบโกยน้ำมันในอ่าวไทย

น้ำมันในอ่าวไทยคือของจริง เขตแดนบนบกคือแผนลวง

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยสมบัติทางทะเลของไทย

ที่มีพระราชประสงค์ให้รักษาไว้เป็นของคนไทย

18 พฤษภาคม 2516 ได้ทรงมีพระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตและเขตต่อเนื่อง โดยการลากเส้นจากหลัก 73 ออกมาแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดและเกาะกง ตามบทบัญญัติแห่งกรุงเจนีวา ว่าด้วยไหล่ทวีป ค.ศ. 1958

ดังนั้น ทะเลอาณาเขต เศรษฐกิจจำเพาะ และทรัพยกรใต้ทะเล เป็นของไทยแน่นอน อย่าเชื่อน้ำคำนักการเมืองที่ว่า เป็นพื้นที่ทับซ้อน ต้องแบ่งครึ่ง 50:50

ผู้อาวุโสที่เป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเล่าให้ฟังว่า. ตอนยกร่างรัฐธรรมนูญ. กองทัพเรือแสดงความห่วงใยในเรื่องนี้อย่างมากและขอให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญบรรจุเรื่องนี้ไว้

รัฐธรรมนูญในหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 52 รัฐ

ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์. เอกราช

อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศ ไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ.....เพื่อประโยชน์แห่งการนี้ รัฐต้องจัดให้มีการทหาร การทูตและการข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ...

สรุปไว้ตรงนี้. กองทัพเรือยึดมั่นต่อพระบรมราชโองการ

ของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างมั่นคง