ล่าแก๊งบัญชีม้าข้ามชาติ หลังหนีข้ามแดนจากเขมรกลับไทยรวบแล้ว 10 ราย 

วันที่ 17 มิ.ย.68 ที่ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์
รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4
แถลงข่าวจัยกุมแก๊งบัญชีม้าขายชาติ หลังหนีข้ามแดนจากเขมรกลับไทย พบตุ๋นเหยื่อชาวไทยรายหนึ่งเสียหายกว่า 36 ล้าน ตามรวบได้แล้ว 10 ราย เร่งติดตามผู้ยังหลบหนี

สืบเนื่องจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชาในห้วงที่ผ่านมา ทาง บช.สอท. ได้สืบสวนพบว่า กลุ่มชาวไทยผู้ร่วมขบวนการในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ประเทศกัมพูชาได้หาช่องทางหลบหนีกลับเข้ามายังประเทศไทย จึงได้สั่งการเร่งด่วนให้ทุกหน่วยในสังกัดเฝ้าติดตามและสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว
 
โดยล่าสุด บก.สอท.4 ได้สืบสวนจนทราบว่า มีกลุ่มผู้ต้องหาบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกให้ลงทุนและเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ รวมจำนวน 35 หมายจับ ได้หลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทยจึงได้จัดชุดปฏิบัติการกระจายกำลังออกสืบสวนติดตามตามพื้นต่างๆ ทั่วประเทศ โดยตั้งแต่ 14 มิ.ย.68จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวได้แล้ว จำนวน 10 ราย จากทั้งหมด 35 ราย

สำหรับผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวนั้น สืบเนื่องมาจากกรณีเมื่อช่วงเดือน ต.ค.67 ผู้เสียหายรายหนึ่งพบโพสต์โฆษณาใน Facebook ชักชวนให้เข้ากลุ่มเทรดหุ้น เมื่อกดลิงก์ได้ไปยังบัญชี LINE หนึ่ง โดยคนร้ายได้แนะนำให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายเว็บไซต์สำหรับการลงทุนจริง
 
ต่อมาผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลส่วนตัวและโอนเงินเข้าเว็บไซต์ดังกล่าวตามคำแนะนำของแอดมิน เมื่อโอนเงินแล้วเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวมีการแสดงกราฟหุ้นจำลอง และตัวเลขผลตอบแทนที่ปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการเทรดจริง โดยในระหว่างการลงทุน กลุ่มมิจฉาชีพยังได้จัดตั้งกลุ่ม LINE (Open Chat)เพื่อหลอกล่อและใช้หน้าม้าสนทนาในกลุ่มเพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่ม แต่เมื่อผู้เสียหายพยายามถอนเงิน แอดมินอ้างว่าผู้เสียหายต้องจ่ายค่าดำเนินการและค่าภาษีเพิ่มเติมอีก จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง สุดท้ายโอนเงินไปทั้งหมด 33 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.67 ถึง 25 ธ.ค.67 รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวนทั้งสิ้น 36,050,000 บาท (สามสิบหกล้านห้าหมื่นบาทถ้วน)

ต่อมา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเทิงได้แล้วหลายรายซึ่งเป็นผู้ต้องหากลุ่มบัญชีม้ารวม จำนวน 35 ราย โดยเป็นกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อนหน้านี้หลบหนีไปกบดานอยู่
ฝั่งประเทศกัมพูชา เมื่อเกิดสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา จึงได้หลบหนีกลับมาผ่านช่องทางธรรมชาติ และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้วรวม 10 ราย จากทั้งหมด 35 ราย โดยจับกุมได้ตามพื้นที่ต่างๆ อาทิ สระแก้ว ชลบุรี อุดรธานี ลำพูน เป็นต้น

จากการสอบถาม หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมรับสารภาพว่า ตนเองได้เปิดบัญชีม้าเพื่อแลกกับเงินค่าตอบแทน โดยมีบอสชาวจีนและเจ๊คนไทยให้ที่พักอาศัยอยู่รวมกันอยู่ที่ตึก 25 ชั้น ในฝั่งประเทศกัมพูชา
เพื่อรอสแกนใบหน้าโอนเงินเมื่อมีคำสั่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างการเร่งติดตามจับกุมตัวกลุ่มบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวที่ยังหลบหนี รวมทั้งกลุ่มผู้ร่วมขบวนการในคดีอื่นๆ ที่หลบหนีกลับจากฝั่งกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด