จากกรณีที่มีเพจดังได้ลงคลิปกลุ่มวัยกำลังรุมทำร้ายร่างกายกัน โดยหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่บ้านถือเคียวสำหรับเกี่ยวหญ้าลงไปด้วย ซึ่งเมื่อสอบถามไปยังเจ้าของคลิปก็ทราบว่าเป็นเหตุการณ์ในพื้นที่ อ.ปากท่อ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 มิ.ย.68 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันที่ 16 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของคลิปและเป็นผู้เสียหาย คือนายวีรวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี และ น.ส.ภัทรานิษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากันอยู่ ม.8. ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยนายวีรวัฒน์ ได้โชว์บาดแผลให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่าบริเวณหน้าอกมีร่องรอยฟกช้ำจนต้องปิดบาดแผลไว้ ที่บริเวณตาข้างขวามีรอยแดงช้ำ ส่วนตามหัวก็บวม โน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่า ในวันเกิดเหตุมีงานบวชนาคซึ่งแห่ผ่านบ้านของตนเองไปที่วัด ซึ่งในช่วงที่อยู่ที่วัดเพื่อนของตนเองก็ไปมีปัญหากับวัยรุ่นของหมู่บ้านโคกพระ ตนจึงเข้าไปห้ามและเคลียกันจบแล้วจึงได้ชวนเพื่อนกลับมาที่บ้าน โดยขี่รถจักรยานยนต์มาคนละคัน ซึ่งตนนั้นขี่ตามมาหลังมา เมื่อเพื่อนมาจอดที่หน้ารถซ่อมรถของตนเองก็มีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นเพื่อนกับคนที่มีปัญหากับเพื่อนตอนที่อยู่ที่วัดได้เข้ามาถามว่ามองหน้าทำไม ก่อนจะลงมาชกต่อยเพื่อนของตนจนล้มไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาซึ่งตนเองนั้นเห็นก็รีบจอดรถจะเข้าไปห้ามก็โดนรุมทำร้ายทันที หลายคนพยายามจะเข้าไปห้ามแต่กลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีมีจำนวนมาก และมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านโคกพระขี่รถจักรยานยนต์มากับหลานได้ลงรถมาพร้อมกับถือเคียวจะเข้ามาฟันตน แต่ถูกห้ามไว้แต่ก็เข้ามาต่อยที่ตาของตนจนได้รับบาดเจ็บจากนั้นก็มีการรุมทำร้ายตนอีก โดยมีทางญาติของตนพยายามจะเข้าไปห้ามและถ่ายคลิปไว้
หลังเกิดเหตุตนได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลปากท่อเพื่อรักษาตัวซึ่งตอนนี้ยังมีอาการ มึน งง และเจ็บตามหน้าอกมาก จากนั้นได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปากท่อแล้วในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายและแจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับผู้ใหญ่บ้านด้วย ซึ่งนี้ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะคนทำนั้นเป็นถึงผู้ใหญ่บ้านและจะไปร้องเรียนต่อนายอำเภอปากท่อ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ใหญ่คนนี้ให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้คิดต่อไปยังผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านโคกพระ ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก็ทราบว่า ในวันเกิดเหตุตน (ในคลิปใส่เสื้อสีแดง)ไปร่วมงานบวช ขากลับได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หลายชายมา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นวัยรุ่นลูกบ้านกำลังมีเรื่องชกต่อยกัน ตนในฐานะฝ่ายปกครองและเหตุเกิดซึ่งหน้า จึงได้ลงไปห้ามและเห็นว่าอีกฝ่ายถืออาวุธคล้ายกับกระบอกโช๊ครถ จึงได้นำเคียวเกี่ยวหญ้าที่อยู่หน้ารถจักรยานยนต์ ซึ่งตนเป็นเกษตรกรจะต้องใช้เคียวไปเกี่ยวหญ้าเป็นปกติ แค่ถือลงไปเพื่อจะระงับเหตุไม่ได้คิดจะนำไปฟันใคร แต่ถูกห้ามไว้ แต่ก็พยายามจะเข้าห้ามกลุ่มที่ทำร้ายกันไม่ได้เข้าไปชกต่อยแต่อย่างใด แค่จะเข้าไประงับเหตุอย่างเดียวซึ่งในฝั่งของลูกบ้านของตนก็มีคนได้รับบาดเจ็บด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากให้บานปลายอยากให้มีการพูดคุยกันมากกว่าเพราะเป็นคนหมู่บ้านใกล้เคียงกัน ก็ต้องพบเจอกันอยู่แล้วจึงไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นเรื่องกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันแต่ตนแค่เข้าไประงับเหตุเท่านั้น