กลางขุนเขาสลับซับซ้อนที่ทอดยาวสุดสายตา เสียงระฆังและบทสวดจากอาศรมเล็ก ๆ ก้องกังวานในยามเช้า แม้ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอินเทอร์เน็ต และไม่มีถนนลาดยาง แต่ “พระธรรมจาริก” กลับเดินทางมาถึงที่นี่ พร้อมหอบหิ้วธรรมะมาเป็นแสงนำทางให้พี่น้องราษฎรบนพื้นที่สูงได้รู้จักกับ “พุทธศาสนา” อย่างลึกซึ้ง

ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ที่โครงการ “พระธรรมจาริก” ดำเนินการโดยมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ร่วมกับ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (กรมประชาสงเคราะห์เดิม) กระทรวง พม. ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาและสร้างความมั่นคงด้านจิตใจแก่ราษฎรบนพื้นที่สูง

 

ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา รวมถึงกระชับความสัมพันธ์ทางจิตใจของราษฎรบนพื้นที่สูงให้มีความรักความรักกัน โดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นตัวเชื่อมให้เกิดความสงบสุขผ่านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและอบรมศีลธรรมให้กับราษฎรบนพื้นที่สูงตามโครงการต่าง ๆ และใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนบนที่ราบสูงให้สามารถดำรงชีพได้อย่างถูกต้อง

 เส้นทางแห่งธรรมที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ บางหมู่บ้านไม่มีพระขึ้นไปเลยนานกว่า 10 ปี เพราะเส้นทางยากลำบาก ต้องเดินเท้าขึ้นเขา 3–4 ชั่วโมง พระธรรมจาริกหลายรูปไม่ได้เพียงสอนธรรมะ แต่ยังเป็นครูอาสา เป็นแพทย์เบื้องต้น และเพื่อนใจของชาวบ้าน ต้องเรียนรู้ภาษาถิ่นเพื่อสื่อสารธรรมะอย่างเข้าใจ เช่น ภาษากะเหรี่ยง ม้ง หรือลาหู่ พวกท่านจึงไม่ใช่เพียง “ผู้แสดงธรรม” แต่คือ “ผู้เยียวยาใจ”

ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน "พระธรรมจาริก จับจอบขุดดินก้อนแรก และจุดไฟแห่งศรัทธาในใจชาวบ้าน ใช้จอบ เสียมและแรงกาย สร้างถนนพุทธวิถีเชื่อมต่อระหว่างอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ไปยังอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร โดยไม่พึ่งพาเครื่องจักร ใช้เวลานานถึง 10 ปีเต็ม ถนนเส้นนี้ว่าจึงถูกขนานนามว่า "ถนนพุทธวิถี" ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางจราจรธรรมดา หากแต่เป็นเส้นทางชีวิตที่นำความเจริญเข้าถึงหมู่บ้านทุรกันดาร โรงเรียน น้ำประปา พลังงานแสงอาทิตย์ และที่สำคัญคือธรรมะที่เข้าถึงใจผู้คน

ปัจจุบันโครงการพระธรรมจาริก มีคณะพระธรรมจาริก จำนวน 277 รูป และแกนนำชาวพุทธบนพื้นที่สูง จำนวน 170 คน  ปฏิบัติศาสนกิจในชุมชนบนพื้นที่สูงทั่วภาคเหนือ รูป ในอาศรมพระธรรมจาริก 302 แห่ง แต่ละแห่งสามารถเข้าถึงชุมชนราษฎรบนพื้นที่สูง 1-2 หมู่บ้าน มีสำนักงานพระธรรมจาริกส่วนภูมิภาค ตั้งอยู่ที่วัดศรีโสดา พระอารามหลวง จังหวัดเชียงใหม่ และมีสำนักงานประธานคณะพระธรรมจาริกตั้งอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร โดยจัดพิธีอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปีทุก ๆ ปี มาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับพิธีอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2568 มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดารในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ร่วมกับ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม จัดพิธี “บรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง” ระหว่างวันที่ 27–29 มิถุนายน 2568 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ การอุปสมบทครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 173 รูป โดยมีทั้งชาวไทยภูเขาและเยาวชนผู้มีใจศรัทธาจากพื้นที่สูง ซึ่งจะได้รับการอบรมหลักธรรมเบื้องต้น พร้อมเรียนรู้ภารกิจของพระธรรมจาริก ก่อนจะเดินทางขึ้นสู่ยอดดอย ปัจจุบันมีพระธรรมจาริกปฏิบัติภารกิจเผยแผ่ธรรมะในพื้นที่ห่างไกลแล้วกว่า 12,906 รูป แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่มีพระธรรมจาริกไปถึง

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแสงแห่งธรรม ประชาชนที่สนใจสามารถร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการฯ ได้ผ่านช่องทางธนาคาร หรือ e-Donation ทั้งนี้ ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงสามารถติดตามกิจกรรมผ่าน Line OA: @thammahighland ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

1. มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดารฯ เวลา 08.30 - 16.30 น.โทร. 02-6596128 (วันและเวลาราชการ)

2. สำนักงานประธานคณะพระธรรมจาริก วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร เวลา 08.30 - 16.30 น. โทร. 02-2802273

 พระธรรมจาริก นอกจากทำหน้าที่เผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาบนพื้นที่สูงแล้ว ยังต้องเป็น “พระนักพัฒนา” สร้างความรู้สึกการเป็นคนไทย รักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม และจัดสวัสดิการสังคมประกอบสัมมาชีพ อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม นำหลักธรรมไปประยุกต์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อชุมชนบนพื้นที่สูงร่วมกันพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคม ตามแนวทางพระพุทธศาสนา ส่งผลให้สังคมเข้มแข็งเติบโตอย่างยั่งยืน