วันที่ 16 มิ.ย.68 ที่ทะเลบ้านหนองข้าวเหนียว อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “คุณลุงกลิ้ง” ชายวัย 74 ปี อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน ชวนผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร่วมสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนที่ผูกพันกับธรรมชาติมานาน พาเดินลุยน้ำทะเลตื้น ๆ ไปยังแหล่งที่เรียกว่า “ซั้งไม้ไผ่”ที่ชาวบ้านช่วยกันปักไว้ในทะเล เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์ของ หอยแมลงภู่ และสัตว์น้ำทะเลหลากหลายชนิด เมื่อถึงฤดูหอยแมลงภู่โตเต็มวัยก็จะเก็บมาขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว ไม่เพียงแต่หอยแมลงภู่ แต่ยังเป็นที่ซ่อนตัวของ ปูใบ้ และสัตว์ทะเลขนาดเล็ก ส่วนการจับปูใบ้ และดักปลาเป็นกิจกรรมที่ทำควบคู่เพื่อยังชีพ ซึ่งลุงกลิ้งและครอบครัวก็ยึดถือวิถีชีวิตเช่นนี้มายาวนานอยู่อย่างพอเพียง กินอยู่กับสิ่งที่ธรรมชาติมีให้ ระหว่างช่วงที่น้ำทะเลลด ลานดินโคลนที่เคยจมอยู่ใต้น้ำจะเผยให้เห็นซั้งไม้ไผ่นับร้อยกระบอกโผล่ขึ้นเหนือน้ำ คุณวาสนา ลูกสาวของลุงกลิ้ง พาผู้สื่อข่าวลุยน้ำเดินตามแนวไม้ไผ่เพื่อสาธิตการหาปูใบ้ อุปกรณ์ที่ใช้มีเพียงแค่ ถุงมือ กับ เหล็กเส้นดัดเป็นตะขอเกี่ยว โดยวิธีหาคือค่อย ๆ สอดตะขอลงไปในรูไม้ไผ่ทีละกระบอก หากมีปูใบ้อาศัยอยู่ในนั้น เมื่อสัมผัสตะขอ ปูก็จะหนีบตะขอไว้แน่น ก่อนจะถูกดึงออกมาอย่างชำนาญ ส่วนลุงกลิ้งก็นำลอบดักปลาไปวางอีกด้านหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเข้าครัวกับครอบครัวลุงกลิ้ง ที่เตรียมจะปรุงเมนูพิเศษขึ้นชื่อ“ปูใบ้แกงกะทิขลุกขลิก”เป็นเมนูพื้นบ้านหากินอยู่ในปัจจุบัน โดยเริ่มจากการนำปูใบ้มาล้างให้สะอาด จากนั้นสับปูครึ่งตัวพอให้เครื่องแกงเข้าเนื้อ เตรียมกระทะตั้งไฟกลาง เท หัวกะทิสด ที่คั้นเองลงไปพอประมาณ แล้วใส่ พริกแกงเผ็ดตำเอง สูตรเฉพาะของครอบครัว ค่อย ๆ คนให้ละลายทั่วกระทะ ใส่กะปินิดหน่อย เมื่อน้ำกะทิเดือดและเริ่มแตกมันสาดกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน ก็นำปูใบ้ลงผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว ราดด้วยน้ำใข่เพิ่มความเข้มข้น ปรุงรสตามใจชอบ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำแกงขลุกขลิก ไม่แห้งเกินและไม่ชุ่มจนเกินไป ก่อนยกขึ้นจากเตา ซอย ใบมะกรูดบาง ๆ โรยหน้าเพิ่มกลิ่นหอม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ หรือรับประท่านกับเส้นขนมจีนอร่อยสุด ๆ
ถึงแม้เมนู “ปูใบ้แกงกะทิขลุกขลิก” จะดูเรียบง่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งกว่าคือ บรรยากาศของความอบอุ่นในครอบครัว ที่ช่วยกันลงแรง ตั้งแต่จับปูจนถึงปรุงเสร็จ และล้อมวงรับประทานอาหารร่วมกันบนพื้นบ้านอย่างเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น จนทำให้ผู้สื่อข่าวสัมผัสได้ว่า ชีวิตที่ผูกพันกับทะเลนั้นไม่ใช่แค่การหาเลี้ยงชีพ แต่คือการดำรงอยู่ของวัฒนธรรม การส่งต่อองค์ความรู้ และการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างเคารพและพอเพียง