(16 มิ.ย.68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในคลองว่า ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีคลอง คู ลำราง ลำกระโดง รวม 1,980 แห่ง แบ่งเป็นคลอง 1,210 แห่ง คู ลำราง ลำกระโดง 770 แห่ง สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้สำรวจคุณภาพน้ำในคลองกรุงเทพมหานคร เพื่อวิเคราะห์คุณภาพน้ำ พบส่วนใหญ่สถานประกอบการ ห้างสรรพสินค้า คอนโด และ ร้านอาหาร อาคาร ปล่อยน้ำเสียผ่านท่อน้ำทิ้งและท่อน้ำสาธารณะก่อนลงคลอง ทำให้ค่า Biochemical Oxygen Demand (BOD) เกินมาตรฐาน โดยการวิเคราะห์ปริมาณความสกปรกของน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น น้ำทิ้งจากอาคารบ้านเรือน น้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม ตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงาน กำหนดให้มีค่า BOD ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร (มก./ล.)

ขณะที่ค่าน้ำมันและไขมัน (Fat, Oil and Grease) ไม่เกิน 5.0 มก./ล. หรืออาจแตกต่างแล้วแต่ละประเภทของแหล่งรองรับน้ำทิ้ง หรือ ประเภทของโรงงานอุตสาหกรรมตามที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 15 มก./ล. บางแห่งสูงเกินมาตรฐาน ดังนั้น จึงให้สำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต คัดเลือกคลองต้นแบบในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม ก่อนจะพิจารณาจัดให้มีการประกวดคลองสวย

นอกจากนี้ให้ทุกสำนักงานเขตตรวจสอบ ไม่ให้ประชาชนรุกล้ำและตั้งที่พักอาศัยในพื้นที่ริมคลอง ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชน ไม่ปล่อยทิ้งน้ำเสียลงสู่คูคลองโดยไม่ผ่านการบำบัด ก่อนปล่อยทิ้ง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแล คู คลอง

ขณะเดียวกันให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ทิ้งสิ่งปฏิกูล ปล่อยน้ำเสีย หรือเศษอาหารลงคลองสาธารณะ ตามแนวทางการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางน้ำ โดยเฉพาะน้ำเสียจากระบบบำบัดน้ำเสียของกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข หรือกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประกอบด้วย สถานที่จำหน่ายอาหาร/สะสมอาหาร ตลาด การจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ

โดยเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำการติดตั้งถังดักไขมันแก่ร้านอาหารและตลาดที่ตั้งริมคลองต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง สถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ.2565 เพื่อจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ภายใน 7 วัน ก่อนออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ซ่อมแซม แก้ไข ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียภายในระยะเวลา 15-30 วัน หากเกินกว่านั้นต้องขออนุมัติขยายเวลา พร้อมแนบเอกสารหลักฐานชัดเจน หากไม่ดำเนินการจะดำเนินคดี ตามมาตรา 80 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับรายวัน ไม่เกิน 25,000 บาท

รวมทั้งน้ำเสียจากระบบบำบัดน้ำเสียของกิจการตามกฎหมายอื่น ๆ ประกอบด้วย โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อาคารประเภท ก. ข. ค. และอาคารประเภทอื่น ๆ กทม.จะทำหนังสือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อาคารประเภท ก. ข. ค.และอาคารประเภทอื่น ๆ อธิบดีกรมควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม และโรงงานจำพวกที่ 3 พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ส่วนบ้านเรือนประชาชน หากพบปล่อยไขมัน ขยะ น้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ ท่อระบายน้ำ และ ที่ทางสาธารณะ ฝ่าฝืน ปรับทันที 10,000 บาทต่อครั้ง ตามมาตรา 57 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 หากไม่อยากถูกปรับ สามารถว่าจ้างหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ในการนำน้ำเสียไปบำบัด อาทิ บริการสูบสิ่งปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลประเภทไขมัน จากกทม. อัตราค่าธรรมเนียม 250 บาทต่อลูกบาศก์เมตร