วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 09.11 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ นำโดย พ.ต.อ.สมบัติ บุญปาน ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เธียรสิน ชายเดชกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ นำกำลังชุดสืบฯและงาน ป.ลงพื้นที่ตามไล่ล่าคนร้ายทันทีหลังได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดฆ่ากันตายจนเสียชีวิต 3 ศพ บริเวณริมถนนทางเข้าวัดหลวงปู่ละมัย ม.8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบูรณ์ แพทย์เวรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ ในบริเวณที่เกิดเหตุพบศพผู้ตาย 1 ราย ทราบชื่อว่านางวันดี อายุ 69 ปี ที่อยู่ ม.8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถูกมีดพร้าปลายแหลมฟันเข้าที่บริเวณต้นคอด้านหลังและบริเวณแขนด้านซ้าย นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายเฉลียว อายุ 64 ปี ที่อยู่ หมู่ 3 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
หลังก่อเหตุคนร้ายได้ถืออาวุธมีดขับรถจักยานยนต์หลบหนีขึ้นเขาตีนตกไป จนท.ตำรวจได้ออกติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ ระยะทางประมาน 6 กิโลเมตร เพื่อจับกุมตัว ระหว่างทางได้พบศพนายยุทธ อายุ 78 ปี ที่อยู่ หมู่ 10 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ตายคนที่ 2 ซึ่งถูกนายเฉลียวใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณลำคอนอนจมกองเลือดเสียชีวิตบริเวณเพิงพักของผู้ตาย ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร พบศพนายเฉลียว ผู้ก่อเหตุใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอตัวเองตายที่ต้นมะขามเพื่อหนีความผิด
จากการสอบถามนางสำเนา ชัยสุบิน อายุ 63 ปี สารวัตรกำนัน ต.บ้านโตก เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา นายเฉลียวฯ ผู้ก่อเหตุ ได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ดำเนินคดีในข้อหา “บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ” จึงทำให้นายเฉลียว โกรธคับแค้นใจผู้ตายทั้ง 2 ว่าเป็นคนร้องเรียนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่าตนบุกรุกที่ป่าสงวน อีกทั้งพื้นที่ทำการเกษตรอยู่ติดกันแต่ผู้ตายทั้ง 2 กลับไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด น่าจะเป็นฉนวนในการก่อเหตุในครั้งนี้ ขณะนี้ตำรวจได้ให้มูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์นำศพไปให้แพทย์โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ทำการผ่าพิสูจน์ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป