สถานการณ์ชายแดน หน้าตลาดบ้านแหลม โป่งน้ำร้อนจันทบุรี กัมพูชาปิดประตูด่านเข้าวันที่ 3 แต่เปิดประตูเล็ก ให้แรงงานประชาชนเดินทางเข้าออก ขณะจุดผ่อนปรนตลาดผักกาดยังห้ามนำเข้า-ออก ผลผลิตการเกษตร
เมื่อเวลา 8:00 น วันที่ 15 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิตร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์กรณีกัมพูชาปิดด่านไม่ให้รถสัญจรข้ามพรมแดน โดยเมื่อช่วงเวลา 8:00 น ทางฝั่งไทยได้ทำการเปิดประตูเหล็กประตูใหญ่ ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งบรรยากาศโดยรวมบริเวณหน้าด่านเต็มไปด้วยแรงงาน และประชาชนชาวกัมพูชา ต่างขนสัมภาระข้าวของมารอ บริเวณ หน้า ตม.กว่า 500 คน เพื่อหวังเดินทางกลับประเทศของตนเอง
ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสังเกตการณ์ พบว่าบริเวณหน้าด่านฝั่งขงกัมพูชา มีคณะของผู้ว่าจังหวัดพระตะบอง และส่วนราชการ ได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์บริเวณหน้าด่านฝั่งกัมพูชาด้วยเช่นกัน ซึ่งทางขณะฝั่งไทยเองที่เฝ้าดูสถานการณ์หวังเพียงว่าทางฝั่งกัมพูชาจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เปิดประตูด่านหรือไม่ เนื่องจากเห็นทางคณะผู้ว่า
พระตะบอง เดินทางมาดูสถานการณ์ด้วยตัวเอง แต่แล้วหลังผ่านไปไม่นาน ฝั่งคณะของผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง ก็ได้ขึ้นรถเดินทางกลับ ส่วนประตูด่านยังคงปิดตายอยู่เช่นเดิม
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางตรวจสอบบริเวณภายในตลาดบ้านแหลม พบว่าร้านค้าปลีกค้า ค้าส่งส่วนใหญ่ ซึ่งมีผู้ประกอบการและแรงงานชาวกัมพูชา ได้ปิดทำการชั่วคราวหลายแห่ง โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านอุปโภคข้าวของเครื่องใช้สิ่งของจำเป็นที่คนชายแดนต้องมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทำให้ตลาดในวันนี้เป็นไปด้วยความเงียบเหงา
ส่วนที่บริเวณลานจอดรถด่านชั่งน้ำหนักตลาดบ้านแหลม พบว่ายังมีรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ติดค้างอยู่อีกประมาณ 50-60 คัน
สอบถาม นายสิทธิกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี พนักงานขับรถบบรรทุกสินค้า ให้ข้อมูลว่า รถบรรทุกสินค้าจำนวนทั้งหมด ที่จอดอยู่ในบริเวณลานแห่งนี้อยู่ระหว่าง
รอคำสั่งจากทางบริษัทแม่ ให้รอดูสถานการณ์ จากกัมพูชาว่าจะมีการเปิดด่านภายในวันจันทร์นี้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากภายในวันจันทร์นี้ยังไม่มีการเปิดด่าน ก็คงต้องรอต่อไป หรืออาจต้องรอคำสั่งบริษัทว่าจะให้มีการยื่นเอกสาร เพื่อเปลี่ยนแปลงช่องทางเดินรถ เพื่อนำสินค้าไปส่งยังตลาดปลายทางให้ได้โดยเร็ว
ขณะ คนขับรถบอกอีกว่า ผลกระทบที่ได้จากการติดค้างในตลาดตั้งแต่วันพุธวันนี้ย่างเข้าวันที่ 5 ทำให้ตนเองสูญเสียรายได้จากค่าตอบแทนแต่ละเที่ยวหายไป แม้ว่าทางบริษัทจะมีค่าชดเชยเป็นรายวัน ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ชีวิตอยู่ ณ บริเวณนี้ได้ แต่ทั้งนี้อยากให้ผู้นำทั้งสองประเทศเร่งการเจรจา หาทางออกให้โดยเร็วที่สุด ไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศ
ส่วนสถานการณ์ที่บริเวณจุดผ่อนปรน ด่านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่า ประตูใหญ่ฝั่งไทยเปิดตามเวลาที่กำหนด พร้อมกับทาง
ฝั่งกัมพูชา โดยยังเปิดให้รถสัญจรผ่านเข้าออกได้ตามปกติ ทั้งรถขนาดเล็กและรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ แต่ยังคงตรึงมาตรการ “ ห้ามนำสินค้าทางการเกษตรทั้งผักผลไม้”ของทั้งสองประเทศ ผ่านพรมแดนจุดดังกล่าว ส่วนประตูเล็กยังเปิดให้ประชาชนแรงงานฝั่งกัมพูชา เข้าออกได้ตามปกติ
นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า ยังมีผู้ประกอบการชาวไทย ที่ได้รับสัมปทานทำไร่มันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว เนื่องจากยังไม่สามารถนำผลผลิตมันสำปะหลังกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการ เฝ้าดูท่าทีของฝั่งกัมพูชา ว่าจะสามารถให้นำผลผลิตกลับเข้าประเทศได้ทางช่องทางไหนได้บ้าง
